สาวโพสต์โวยรพ.เจาะเข็มให้น้ำเกลือ ทำลูก 4 เดือนติดเชื้อ ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ด้านรพ.โต้อีกมุม แม่เข้าใจผิด สาเหตุน่าจะมาจาการแพ้ผ้าก๊อซ
วันที่ 21 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หญิงวัย 28 ปี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ติดใจการรักษาของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมลงภาพ ลูกชาย อายุ 4 เดือน หลังพาเข้ารักษาที่โรงพยาบาล แล้วข้อมืออักเสบ ติดเชื้อบวมแดงทั้ง 2 ข้าง เชื่อว่ามาจากการ เจาะเข็มให้น้ำเกลือ พร้อมยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
จากการสอบถามผู้โพสต์ ทราบชื่อคือ นางสาวอภิญญา พิเศษวัฒนวิโรจน์ อายุ 28 ปี เผยว่า ตนทำงานที่ชลบุรี จึงให้แม่เป็นคนดูแลลูกชายวัย 4 เดือน อยู่ที่บ้านเกิดจังหวัดอุบลฯ จนเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ลูกมีไข้ ไอ ท้องเสีย จึงส่งรักษาที่รพ. แพทย์ตรวจเลือดพบลูกมีเม็ดเลือดขาวมาก น่ามาจากการติดเชื้อ จึงให้นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อ คืนแรกอาการไข้ของลูกดีขึ้น เหลือเพียงอาการไอกับท้องเสียเล็กน้อย หมอให้คำแนะนำเปลี่ยนนมให้ลูกชายและให้เกลือแร่ควบคู่กันไป
จนวันที่ 17 เม.ย. แม่ตนที่คอยดูแลลูก สังเกตเห็นว่า มือของลูกชายมีอาการบวม บริเวณจุดที่พยาบาลเข็มที่ติดผ้าก๊อซให้น้ำเกลือ ซึ่งพยาบาลบอกว่าไม่เป็นอะไร ทั้งที่พยาบาลไม่ได้เปิดผ้าก๊อซออกดูอาการแต่อย่างใด จนเช้าวันต่อมาตนเดินทางกลับมาถึง ได้เข้าเยี่ยมลูกชาย ก็เห็นมือของลูกบวมมากขึ้น ผิวหนังแตกเป็นแผลพุพอง มีกลิ่นฉุนคล้ายน้ำหนอง กระทั่งพยาบาลต้องนำผ้าก๊อชมาปิดแผลเอาไว้แล้ว พร้อมบอกให้รอแพทย์เจ้าของไข้มาตรวจก่อน
จนเที่ยงวัน แพทย์เข้ามาดูก็บอกว่า ลูกชายแพ้ผ้าก๊อชไม่เป็นอะไรมาก ล้างแผลทายาก็หาย แต่ตนเกิดความไม่มั่นใจในการรักษา จึงขอให้ส่งตัวมาโรงพยาบาลเด็กสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ทำให้ทางโรงพยาบาลได้ออกหนังสือว่า คนไข้ปฏิเสธการรักษา ก่อนจะออกพาลูกมารักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็กสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี
ซึ่งแพทย์ได้ดูแผลและให้ยาฆ่าเชื้อต่อ เพราะอาการที่มือน่าจะติดเชื้อ แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นการติดเชื้ออะไรจากไหน ต้องรอผลการเพาะเชื้อจากห้องแลปก่อน ล่าสุดอาการของน้องดีขึ้น อาการบวมที่มือเริ่มลดลง ตนจึงโพสต์ข้อความดังกล่าว หลังจากที่โพสต์ไปมีแอดมินของโรงพยาบาลติดต่อมา เพื่อไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง แต่ตนไม่ขอเจรจา ไม่ขอรับการเยียวยา แต่ต้องการดำเนินคดีกับทีมผู้รักษาที่วินิจฉัยโรคผิดพลาด ทำให้ลูกชายมีอาการหนักขึ้น ขณะนี้รอให้ลูกชายอาการดี ก็จะไปขอรายละเอียดการรักษา เพื่อร้องเรียนกับ สสจ.หรือแจ้งความ
ขณะที่ โรงพยาบาลอำเภอเขมราฐ ออกมาให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. เด็กชายเอ ได้มากับคุณยายและญาติอีก 1 คน ด้วยอาการ ไข้ ไอ ถ่ายเหลว แพทย์ได้ตรวจร่างกาย พร้อมเจาะเลือด เก็บอุจจาระมาตรวจพบว่า เด็กติดเชื้อในลำไส้ จึงให้นอนที่โรงพยาบาล เพื่อให้ยาฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ พร้อมแนะนำยายให้เปลี่ยนนม
เพราะที่เด็กท้องเสีย มาจากร่างกายลำไส้ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสอยู่ในนมที่เด็กกินได้ จึงให้เปลี่ยนนมก่อน และหลังแอดมิด เด็กก็ไม่มีไข้ แต่ยังมีถ่ายอยู่บ้าง จนวันที่ 16-17 เด็กเริ่มก้นแดง ซึ่งเป็นอาการติดเชื้อในลำไส้ ที่ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสตัวนี้ได้ เด็กก็จะถ่ายออกมาแล้วมีก้นแดง แพทย์ก็ยังคงแนะนำคุณยายว่า ต้องไปเปลี่ยนนมไม่งั้นไม่หาย เพราะว่านมที่กินอยู่คือยิ่งกินก็ยิ่งถ่ายวันที่ 18 เม.ย. คุณแม่เด็กมาบอกว่า มือของเด็กบวมแดง มีหนอง
โดยแจ้งกับแพทย์ว่าเป็นการติดเชื้อ ซึ่งก่อนหน้านั้นทำแผลให้แล้ว แพทย์จึงเข้ามาประเมินดูแผลพบว่า ลักษณะของมือเด็กมีอาการบวม แดง นิดหน่อยแล้วก็มีแผลเป็นแผลถลอกตามแนวผ้าก๊อซมีเป็นน้ำเหลืองซึม ไม่ใช่น้ำหนองตามที่คุณแม่เด็กเข้าใจ
แพทย์ที่รักษาได้พยายามอธิบายว่า ถ้ามีการติดเชื้อจากเข็มจริง จะต้องมีลักษณะของการ บวม แดง บริเวณรอบเข็ม อาจจะลามไปตามเส้นเลือด ที่เข็มอยู่ ประกอบกับต้องมีอาการปวด แต่เคสนี้จับดูเด็กไม่ร้อง ไม่ปวดเวลาจับ ไม่ได้ร้องโวยวาย อนุมานได้ว่าเด็กไม่เจ็บ และเด็กไม่มีไข้ โอกาสจะติดเชื้อจากเข็มน้อย
ส่วนสาเหตุน่าจะมาจาการแพ้ผ้าก๊อซ ประกอบกับการเปียกชื้นจากน้ำลายของเด็กเอามือใส่ปาก จนทำให้มีความชื้นของน้ำลายกัดผิวหนังของเด็ก แล้วก็ลอกได้เหมือนเด็กทั่วๆไป แพทย์จึงแนะนำว่า ถ้าญาติกังวลจะเป็นการติดเชื้อจากเข็ม จะเอาเข็มออกให้ เรื่องแผลจะดูแลทำแผลให้ และดูอาการเรื่องแผล
แต่ญาติก็ยืนยันจะขอออกจากโรงพยาบาล แพทย์จึงแนะนำให้บันทึกปฏิเสธการรักษาจากญาติ และแนะนำให้ดูแลแผลต่อเนื่อง ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าเด็กไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเด็กสรรพสิทธิ์ประสงค์และมีการโพสต์ดังกล่าว