สาวขอขมา ผบ.ทบ. ปมโพสต์ทหารบินฉีดวัคซีนที่สหรัฐ รับเป็นบทเรียนเฟกนิวส์

Home » สาวขอขมา ผบ.ทบ. ปมโพสต์ทหารบินฉีดวัคซีนที่สหรัฐ รับเป็นบทเรียนเฟกนิวส์


สาวขอขมา ผบ.ทบ. ปมโพสต์ทหารบินฉีดวัคซีนที่สหรัฐ รับเป็นบทเรียนเฟกนิวส์

มือโพสต์ ทหารบินสหรัฐฉีดไฟเซอร์ ขอขมา ผบ.ทบ. รับเป็นบทเรียนเสพเฟกนิวส์ ด้าน “บุรินทร์” เผยแจ้งหมิ่นประมาทตัวเลขหลักสิบ หนึ่งในนั้นมี ส.ส.ณัฐชา ก้าวไกล

วันที่ 29 มี.ค.65 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ปานศิริ มีผล อดีตทหารนอกราชการ เตรียมทหารรุ่น 13 นำ น.ส.สิรพัชญ์ ปฏิพัทธวินิจ พร้อมด้วย นายพัฒนฉัตร เลิศอำไพนนท์ สามี นำพวงมาลัยเข้าขอขมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)

จากกรณี น.ส.สิรพัชญ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ กล่าวหา กำลังพล กองร้อยส่งทางอากาศ ที่เดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation) กับกองทัพบกสหรัฐ ณ Fort Bragge รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างวันที่ 10-26 ก.ค.64 ว่าบินไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โดยมี พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก พร้อมด้วย พล.ต.อานุภาพ ศิริมณฑล เลขานุการกองทัพบก เป็นผู้รับมอบ

น.ส.สิรพัชญ์ กล่าวว่า ตนไปส่องทวิตเตอร์และรับทราบในสิ่งที่ผิดๆ ว่าทหารไทยไปฉีดวัคซีนที่สหรัฐฯ ด้วยความที่เราอินกับข่าวก็เลยนำมาโพสต์ต่อจากนั้นได้รับทราบความจริงก็ลบโพสต์ทันทีว่าทหารไทยไม่ได้ไปฉีดวัคซีน แต่ไปร่วมฝึกกับทหารสหรัฐอเมริกาหลังจากที่ได้ลบโพสต์ไปแล้วก็มีปัญหาเข้ามาโดยถูกฟ้องร้องดำเนินคดี

ต้องเข้าใจว่าในช่วงนั้นวัคซีนก็ขาดแคลนในประเทศไทย และตนก็ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้เมื่อได้รับการแชร์ข่าวดังกล่าวมาก็รู้สึกว่าทำไมทหารถึงบินไปฉีดวัคซีนได้ โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ตนจึงติดต่อขอโอกาสมาขอขมา ผบ.ทบ.ว่าเรารู้ข้อเท็จจริงแล้วก็ยินดีปรับปรุงตัวและช่วยประชาสัมพันธ์ชี้แจงข่าวที่เป็นจริงของกองทัพบกว่าเฟกนิวส์มีอยู่จริง ทั้งนี้ฝากเตือนน้องๆเด็กยุคใหม่ว่าการที่จะส่งต่อโพสต์หรือแชร์ต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนไม่ใช่โพสต์เพื่อสนุกปากหรือเรียกยอดไลท์ยอดแชร์

“ยอมรับว่าหลังถูกดำเนินคดีมีผลกระทบต่อความรู้สึก และชีวิตประจำวันมากซึ่งตัวเองไม่ได้มีเจตนาจะบิดเบือนเรารับทราบข่าวมาอย่างไรแล้วก็โพสต์ไปอย่างนั้นแพร่กระจายไปตามที่เราข่าวที่เรารับทราบมา” น.ส.สิรพัชญ์ กล่าว

พล.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ตนรู้จักกับแม่ของสามีคุณสิรพัชญ์ จึงเข้ามาเป็นตัวกลางประสานให้เพราะรู้ว่าทั้งหมดเป็นความทุกข์อย่างแสนสาหัส จากกรณีแค่นี้หลังที่ได้รับเฟกนิวส์มาสั้นๆ แต่ผลที่ตามมารุนแรงต่อชีวิตประจำวันของเขาสิ่งที่คิดคือเราเป็นคนไทยด้วยกันก็น่าจะพูดคุยกันได้จากปัญหาของเขาตนจึงได้ประสานมาที่กองทัพบก

ด้าน พล.ต.อานุภาพ กล่าวว่า การที่กองทัพบกฟ้องดำเนินคดีเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพ ไม่อยากให้สังคมส่วนใหญ่เข้าใจผิด การฟ้องร้องไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เมื่อน้องรับทราบความจริงแล้วมาขอโทษก็ขอให้เป็นอุทาหรณ์และเป็นบทเรียน ทั้งนี้ถ้าเป็นการโพสต์พากพิงตัวบุคคล หรือ ตัว ผบ.ทบ. ท่านไม่ได้ดำเนินการอะไร ยกเว้นที่กระทบภาพลักษณ์ต่อกองทัพ ในขณะนั้น ก็ยอมรับว่าประเทศอยู่ในภาวะขาดแคลนวัคซีนทำให้มีผู้ไม่หวังดี นำเรื่องดังกล่าวมาปลุกปั่น ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกองทัพ ขยายผลเพื่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม

“กองทัพบกไม่ต้องการทำร้ายประชาชนหรือตั้งเป้าจะไปฟ้อง ทำให้เกิดคดีความและสร้างความเดือดร้อน แต่ถ้าไม่ดำเนินการ ก็จะกลายเป็นว่ากองทัพบกถูกถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนคนที่นำเฟคนิวส์มาโพสต์ต่อก็เหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ เพราะ เป็นการโพสต์ด้วยความบริสุทธิ์ใจที่คิดว่าข้อมูลนั้นคือถูกต้อง ส่วนพวกเฟคนิวส์หรือพวกอวตาร ก็บรรลุความสำเร็จแล้วและไม่ได้มาเดือดร้อนเหมือนกับผู้โพสต์ที่ถูกดำเนินคดี” พล.ต.อานุภาพ กล่าว

พล.ต.บุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีผู้โพสต์ข้อความส่งผลกระทบถึงกองทัพบกเป็นจำนวนมากแต่ที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีมีอยู่ประมาณหลักสิบ เกี่ยวการหมิ่นประมาท ซึ่งบางส่วนก็เกิดในต่างจังหวัดก็ให้หน่วยทหารในพื้นที่เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี

เมื่อถามว่า มีการแจ้งความดำเนินคดีกรณีที่มีการอภิปรายในสภา พาดพิงกองทัพบกในห้วงที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.บุรินทร์ กล่าวว่า มีกรณี ส.ส. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล นำเอกสารเท็จกล่าวหา กองทัพภาคที่2 ทำปฏิบัติการไอโอ เมื่อ ส.ค.2564

สำหรับการเข้าขอขมาในครั้งนี้ กองทัพบก ได้มีเงื่อนไขให้ น.ส.สิรพัชญ์ ลงภาพพร้อมข่าวการเข้าขอขมา ผบ.ทบ.ในเฟซบุ๊กชื่อ Amilie siraphat patipattawinij เป็นเวลา 7 วัน พร้อมนำข้อมูลดังกล่าวเรียน ผบ.ทบ.อนุมัติถอนฟ้องต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ