สัญญาณอันตราย โรค "แพ้เหงื่อตัวเอง"

Home » สัญญาณอันตราย โรค "แพ้เหงื่อตัวเอง"
สัญญาณอันตราย โรค "แพ้เหงื่อตัวเอง"

มีใครเคยรู้สึกแสบๆ หรือมีอาการคันยิกๆตรงบริเวณที่มีเหงื่อออกตามร่างกายเวลาที่เราไปเจอแดดที่ร้อนมากๆกันบ้าง? ไม่ว่าจะเป็นตรงลำคอ ใบหน้า แขน ขา เป็นต้น ทั้งคันไม่พอบางทีถึงกับลมพิษขึ้น มีผื่นแดง หรือผื่นคันขึ้นตรงบริเวณดังกล่าว จะเป็นไปได้ไหมว่าเราอาจจะกำลังเป็นโรค “แพ้เหงื่อตัวเอง”

โรคแพ้เหงื่อตัวเอง

ต้องมีหลายคนกำลังสงสัยอยู่แน่ๆ ว่าไอโรคแพ้เหงื่อตัวเองนั้นมีจริงๆใช่ไหม ตอบเลยว่ามีจริงๆ โรคแพ้เหงื่อตัวเอง (Allergic Dermatitis) จัดว่าเป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคแพ้ชนิดหนึ่ง โดยอาการแพ้มักจะแสดงออกมาในรูปของผื่นคันนั่นเอง แต่ต้องบอกก่อนว่าโรคแพ้เหงื่อตัวเองไม่ได้เกิดจากการที่เหงื่อของเราเป็นพิษนะทุกคน เพราะบางเคสเกิดจากผิวหนังของเราที่อาจจะเป็นโรคอื่นอยู่แล้ว เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคเกลื้อน โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคผิวหนังชนิดอื่นๆ

ทีม iNN จะพาทุกคนมาสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคแพ้เหงื่อตัวเองกันดีกว่า ถ้าพร้อมแล้วเราไปเช็คอาการเบื้องต้นกันได้เลย

  • ส่วนมากแล้วอาการแพ้เหงื่อจะเกิดขึ้นตรงบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ข้อพับ ขาหนีบ ลำคอ รอบดวงตา และบริเวณใบหน้า เป็นต้น 
  • มีอาการคันมากยามเหงื่อออก โดยเฉพาะจุดที่มีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษ เช่น ลำคอ ใบหน้า ขาหนีบ แขน ขา ข้อพับ 
  • เวลาเหงื่อออกทีไรมักจะตามมาด้วยผื่นแดงหรือตุ่มใสเป็นประจำ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาดแค่ไหนก็ตาม
  • จะมีตุ่มหรือผื่นแพ้ที่เกิดบนผิวหนัง ซึ่งจะอยู่แค่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง และสามารถหายไปเองได้ แต่เมื่อไหร่ที่เหงื่อออกอีกครั้ง อาการคันก็จะกลับมา 
  • มีสิวขึ้นบริเวณตรงที่เหงื่อออก แต่ต้องบอกก่อนว่ามีหลายคนคิดว่าตัวเองมีอาการแพ้เหงื่อแล้วสิวขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วผื่นบนผิวหนังนั้นเป็นผื่นที่เกิดจากการแพ้ ไม่ใช่สิว หรือถ้าหากพบว่ามีตุ่มใสขึ้น ลักษณะหน้าตาคล้ายๆสิวอักเสบนั้นต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุของโรคที่แท้จริงเนื่องจากอาการแพ้ที่เกิดจากเหงื่อที่จะแสดงออกมาในรูปของผื่นคันหรือตุ่มคัน และรอยแดงๆ บนผิวหนังเท่านั้น
  • คนที่มีแนวโน้มเสี่ยงเป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเองนั้นอาจจะเป็นคนที่เป็นโรคแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นลมพิษเรื้อรัง คนที่มีโรคหอบหืด หรือโรคจมูกอักเสบ

วิธีรักษาอาการแพ้เหงื่อตัวเอง

หากมีอาการแพ้เหงื่อตัวเอง อาจลองพยายามหลีกเลี่ยงการมีเหงื่ออยู่บนผิวหนังเป็นระยะเวลานานๆ หากมีเหงื่อให้รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย และทำให้ผิวหนังแห้ง ไม่อับชื้นนานๆ ดูก่อน
หากไม่ดีขึ้น หรือไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมีเหงื่อได้เลย อาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาทางรักษาอย่างถูกวิธี

แพทย์หญิงสุราศี อิ่มใจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก แนะนำว่า การรักษาโรคแพ้เหงื่ออาจทำได้ด้วยวิธี Desensitization หรือการทำให้ร่างกายค่อยๆ ชินต่ออาการแพ้จนไม่มีปฏิกิริยากับอาการแพ้อีกต่อไป โดยอาจลองฝึกให้ร่างกายอยู่ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อน หรือปรับอุณหภูมิให้ค่อยๆ รู้สึกอุ่นขึ้นทีละหน่อย จนร่างกายไม่มีอาการแพ้เกิดขึ้นอีก

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ