พรรคสร้างอนาคตไทย สอน รัฐบาล กระตุ้นท่องเที่ยวผิดทาง แนะ ดูแล SME ชง โมเดลกระจายประโยชน์ให้รายย่อย-ชุมชน
วันที่ 26 พ.ย.2565 ที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค แถลงข่าว “ปัญหาการท่องเที่ยวไทย ไร้ทางแก้ ต้องคิดใหม่ ทำใหม่” ว่าน่ายินดีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ กำลังกลับเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้น แต่มีคำถามว่าได้ใช้โอกาสนี้ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่
เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่โดยเฉพาะรายกลาง รายเล็ก ไม่ได้รับผลประโยชน์มากนัก และสถานะกิจการยังตกอยู่ในความเสี่ยงสูงมาก และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ของภาครัฐตลอด 3 ปี ตั้งแต่หลังเกิดการระบาดโควิด -19 ถูกต้องเหมาะสม
สอดรับกับสถานการณ์แต่ในละช่วงเวลาหรือไม่ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะย่ำแย่ พรรคฯจึงต้องการชี้ให้เห็นว่านโยบายที่ผ่านมา และที่จะทำในอนาคตผิดทิศทาง และพร้อมนำเสนอแนวทางการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวที่ถูกต้องเหมาะสมให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้นำไปพิจารณา
ด้านนายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวรายกลางรายเล็ก ต้องล้มละลายปิดกิจการจำนวนมาก และเชื่อว่าในปีหน้าจะต้องปิดตัวลงอีกมาก เนื่องจากไม่มีกำลังจะปรับปรุงกิจการ หรือจ้างงานมารองรับบริการนักท่องเที่ยว สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการเวลานี้คือ ต้องช่วยฟื้นฟูกิจการรายเล็ก หรือ เอสเอ็มอี ท่องเที่ยวอย่างจริงจังและเร่งด่วน
โดยปรับโครงสร้างหนี้ พักหนี้ทั้งต้นและดอก พร้อมกับให้เงินกู้ใหม่ ให้กลับมาเปิดกิจการได้อีก ที่ผ่านมานโยบายของภาครัฐทำไม่ได้จริงในทางปฏิบัติ เพราะธนาคารไม่ยอมปล่อยกู้ นอกจากนี้รัฐควรปรับนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวใหม่ จากปัจจุบันกระตุ้นให้เกิดความต้องการของตลาดด้านเดียว เช่น โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” แต่ไม่ได้กระตุ้นฝั่งผู้ให้บริการที่จะรองรับนักท่องเที่ยว หรือไม่ได้ทำให้ผู้ประกอบการในวงกว้างมีความสามารถในการรองรับตลาด
ผลประโยชน์จึงไปตกเฉพาะทุนใหญ่ รวมทั้งหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบมักจะใช้งบประมาณจำนวนมากในการจัดกิจกรรมหรืออีเวนท์กระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ที่ผ่านมาพบว่าไม่ประสบความสำเร็จ จึงควรทบทวนเอางบประมาณส่วนนี้ ไปปรับปรุงพื้นที่ท่องเที่ยวให้สวยงามขึ้นจะดีกว่าหรือไม่ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวมมากกว่า
ส่วนนายพงศ์พรหม ยามะรัต ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านพัฒนาเมือง กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินนโยบายการท่องเที่ยวล้มเหลวมาตลอด เพราะเอาปริมาณนักท่องเที่ยวและการเติบโตของรายได้เป็นตัวตั้ง แต่ไม่ได้มองลึกลงไปว่ารายได้ที่เกิดขึ้นนั้นไปสู่คนกลุ่มไหน วันนี้ผู้ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่คือทุนขนาดใหญ่ โรงแรมขนาดใหญ่ ไม่ได้เกิดกับกิจการขนาดเล็กหรือชุมชนในวงกว้าง
ดังนั้นวันนี้นโยบายการท่องเที่ยวต้องเปลี่ยนใหม่ ต้องวัดกันที่เม็ดเงินที่เกิดขึ้นนั้นไปก่อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยหรือชุมชุนหรือไม่ ซึ่งการวัดแบบนี้จะเป็นการทำให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการฟื้นเศรษฐกิจประเทศไทยอย่างแท้จริง
“วันนี้นักท่องเที่ยวไปกระจุกตัวอยู่ที่สถานที่ท่องเที่ยวเดิมๆ เราต้องทำให้นักท่องเที่ยวกระจายไปยังพื้นที่ใหม่ๆในชุมชนใหม่ๆ เช่นที่กรุงเทพฯ แทนที่จะเที่ยวที่เยาวราชเท่านั้น ทำไมเราไม่โปรโมทให้เขาไปเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรม มอญทาวน์ ออฟ เอเชีย ที่สมุทรปราการ ไปเที่ยวชมพหุวัฒนธรรมที่เขตหนองจอก คลองสามวา มีนบุรีที่บรรยากาศยังมีกลิ่นอายความเป็นกรุงเทพฯเมื่ออดีต เพื่อกระจายรายได้ให้ถึงชุมชนในวงกว้าง” นายพงศ์พรหม กล่าว