สว.เสรี เย้ย! ก้าวไกล กรณีแก้ม.272 เป็นการดิสเครดิต ปิดสวิตช์ สว.

Home » สว.เสรี เย้ย! ก้าวไกล กรณีแก้ม.272 เป็นการดิสเครดิต ปิดสวิตช์ สว.

สว.เสรี เย้ย! พรรคก้าวไกล กรณีแก้ ม.272 เป็นการ ดิสเครดิต สว. ไม่มีทางสำเร็จ เพราะไม่มีใครยอม ย้ำ! นโยบายก้าวไกล คือปัญหา

จากกรณี ที่เมื่อวานนี้(13 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา ได้มีการลงมติ ไม่เห็นชอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเสียง เห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง และ งดออกเสียง 199 เสียง มีเพียงสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ที่ลงมติ “เห็นชอบ” สนับสนุนนายพิธา เพียง 13 เสียงเท่านั้น

วันที่ 14 ก.ค.66 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการที่พรรคก้าวไกล จะเสนอแก้ไข รธน.มาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่สามารถเป็นไปได้ เพราะต้องใช้เสียง ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ซึ่งเคยทำมาแล้ว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ ส.ว.จะปิดสวิตช์ตัวเอง

“การยกเลิกหรือแก้ไข ไม่สามารถทำได้ แต่มองว่า ต้องการปิดสวิตช์ ส.ว.หรือดิสเครดิต ส.ว. และทำให้ ส.ว.ลดความน่าเชื่อถือ เพื่อนำมาวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเท่านั้น ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจของส.ว.”

หากต้องการให้การเลือกนายกรัฐมนตรีเดินหน้าต่อไปได้ พรรคก้าวไกลจะทำอย่างไร มากกว่าการปิดสวิตซ์ ส.ว.หรือให้ ส.ว.ลาออก
นายเสรี ระบุว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะอยู่ในช่วงการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี สิ่งที่ทำได้คือต้องหาเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา เลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้ 376 เสียง หรือจะมาจาก ส.ส.ฝ่ายเดียวก็ได้ ไม่ต้องมาใช้บริการ ส.ว. เพราะ ส.ส.มี 500 เสียง ก็ไปรวมมาให้ได้ 376 เสียง ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่ต้องมาปิดสวิตช์ส.ว.ให้ยุ่งยาก เพราะปิดไม่ได้อยู่แล้ว

ทำความรู้จัก รัฐธรรมนูญมาตรา 272 หลัง ก้าวไกล ยื่น ปิดสวิตช์ ส.ว.

รวบ! ‘ครูฟู่’ อดีตครูภาษาไทย ยืมเงินนร.-ผอ. หลอกคนจองห้องพัก

ชลน่าน รอ กก.นัดหารือ โหวตนายกฯ รอบ2 หวั่น! มีชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ เสนอชิง

ส่วนการที่ระบุว่า ดิสเครดิต ส.ว.จะทำให้ประชาชนไม่พอใจ ส.ว.หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า อยู่ที่ว่าส.ว.มีจิตสำนึกรับผิดชอบในการทำหน้าที่มากน้อยแค่ไหน ถ้าไปห่วงเสียงกดดัน ข่มขู่ ให้ร้าย และไม่ยอมทำตามรัฐธรรมนูญ หรือหลักการที่ถูกต้อง เหมือนกับว่าเราไม่รับผิดชอบ เอาตัวรอดกลัวเสียงก่นด่า หรือไม่ชอบอีกฝ่ายหนึ่ง แต่วุฒิสภาต้องยึดหลักให้มั่น ทำในสิ่งที่ถูกต้องเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะเป็นหลักการที่เป็นประโยชน์ให้กับคนทั้งประเทศ ไม่ใช่คนบางกลุ่มที่มาเรียกร้อง

หากพรรคก้าวไกลจะยอมลดเพดานไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 ทาง ส.ว.จะมีการพิจารณาเลือกนายพิธาหรือไม่
นายเสรี ระบุ สำหรับตน จะไม่นำมาพิจารณาแล้ว ที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันได้ เพราะเจตนาที่พรรคก้าวไกล ทำและเสนอต่อสาธารณะ เพื่อต้องการกระทบสถาบันฯ และแนวนโยบายดังกล่าว พรรคก้าวไกล ยืนยันมาตลอดว่าไม่ถอย หากเสนอไม่แก้ไขมาตรา 112 ก็ไม่มีหลักประกันอะไรว่าหาก ส.ว.ลงคะแนนให้ ในวันพรุ่งนี้จะกลับจากหน้ามือเป็นหลังมืออีกหรือเปล่า และอาจเดินไปตามหลักเดิม

อย่างไรก็ตามหากไม่มีการถอยจะเป็นจุดปิดตายของพรรคก้าวไกลและทำให้พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแทนนั้น นายเสรี กล่าวว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่มีปัญหา หากนายพิธาไม่ผ่าน ก็เสนอคนอื่นขึ้นมาได้ แต่สิ่งสำคัญคือแนวนโยบายพรรคก้าวไกลที่ร่วมรัฐบาล ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ หากนำพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลและยังมีแนวคิดดังกล่าว กระทบกับสถาบันฯ ก็มีโอกาสจะไม่ผ่าน

ดังนั้นต้องไปจับขั้วหรือพรรคให้ดี และรวมพรรคให้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ 251 เสียงขึ้นไป โดยส่วนตัวคงไม่อยากชี้ว่าพรรคใดต้องร่วมกับพรรคใด ให้ ส.ส.ไปจัดกระบวนทัพ แต่ละฝ่ายแต่ละกลุ่ม

ทั้งนี้ ในอนาคตเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยและจะมีการแก้ไขมาตรา 272 ส.ว.จะมีการดำเนินการอย่างไร หรือเห็นด้วยหรือไม่ นายเสรี ระบุ ไม่เห็นด้วย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการเสนอแก้ รธน.ให้ปิดสวิตช์ ส.ว.และตัดอำนาจหน้าที่ ส.ว. มาแล้วแต่ไม่สำเร็จ อีกทั้ง ส.ว.อยู่จะครบ 5 ปีอยู่แล้ว การเสนอแก้ไข รธน.มาตรา 272 คงไม่สามารถทำได้ เพราะต้องใช้เสียง 1 ใน 3 คงปิดสวิตซ์ไม่สำเร็จ และโดยส่วนตัวมองว่า ส.ว.ควรจะทำหน้าที่ให้ครบวาระ เพราะการทำหน้าที่มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี แก้ปัญหาวิกฤตของบ้านเมือง เช่นวิกฤตที่เกิดขึ้นในการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ขาดคุณสมบัติมีลักษณะต้องห้าม มีนโยบายกระทบสถาบันฯ สิ่งนี้คือภารกิจ ดังนั้นในช่วง 5 ปี ส.ว.ต้องทำงานให้ครบวาระ