สลด ติดโควิด 4 ชีวิต ญาติขับรถพากลับไปรักษาที่บ้าน รถคว่ำดับ 2 ศพ เจ็บ 4

Home » สลด ติดโควิด 4 ชีวิต ญาติขับรถพากลับไปรักษาที่บ้าน รถคว่ำดับ 2 ศพ เจ็บ 4

รถกระบะพาญาติและครอบครัวติดโควิด 4 ชีวิต หวังกลับไปรักษาตัวที่พะเยา ระหว่างทางเกิดเสียหลักชนต้นไม้ ดับ 2 ศพ เจ็บอีก 4 ราย กักตัวกู้ภัยเกือบ 20 ชีวิต 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุรถชนต้นไม้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บติดภายในหลายราย ที่ถนนสาย 340 สุพรรณ-ชัยนาท หมู่ 3 ต.วังน้ำซับ

เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี นำอุปกรณ์ตัดถ่างรุดไปช่วยเหลือ พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 2107 กรุงเทพมหานคร ชนต้นไม้ขนาดใหญ่ริมร่องกลางถนนล้ม รถกระบะพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและข้าวของกระจายเกลื่อนพื้น

ทีมช่วยเหลือได้รีบสวมชุด PPE ป้องกันเชื้อโรคตามมาตรการพร้อมกับฉีดพ่นยาฆ่าก่อนเข้าทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจำนวน 4 ราย นำส่งโรงพยาบาลศรีประจันต์ ให้แพทย์ตรวจรักษาเป็นการด่วน และภายในรถมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ 2 ราย เจ้าหน้าที่ต้องประสานรถเครนมาช่วยยกรถกระบะพลิกตั้ง ก่อนใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถที่พังยับเยิน

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถกระบะคันดังกล่าวมี นายชูเกียรติ อายุ 47 ปี เป็นคนขับพาครอบครัวและญาติๆ ประกอบด้วย นายจำนงค์ อายุ 36 ปี, น.ส.วันเพ็ญ อายุ 42 ปี, น.ส.สายทอง (ไม่ทราบนามสกุลและอายุ), ด.ช.สิทธิ์ศักดิ์ อายุ 13 ปี และ ด.ช.กฤษฎา อายุ 7 ปี เดินทางมาจากที่ทำงานในเขตบางขุนเทียน กทม. เนื่องจากไปตรวจหาเชื้อโควิด พบผลตรวจเป็นบวกกันทั้งหมด รวม 4 คน จึงตัดสินใจพากันกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดที่ กิ่ง อ.ภูซาง จ.พะเยา เนื่องที่ทำงานไม่มีสถานที่ให้รักษาตัว โดยขับรถมาตามถนนสายดังกล่าว

ถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักชนต้นไม้ริมร่องกลางถนนอย่างแรง ก่อนจะพลิกหงายท้องจนรถพังยับเยิน ทำให้มีคนเสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.วันเพ็ญ และ น.ส.สายทอง ส่วน ด.ช.กฤษฎา อาการสาหัส ต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ที่เหลือบาดเจ็บปานกลาง ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ต้องรีบดำเนินการทำพิธีฌาปนกิจอย่างเร่งด่วน ที่วัดเถรพลาย อ.ศรีประจันต์

ทั้งนี้ ทีมกู้ภัยและผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ ทางผู้บริหารมูลนิธิเสมอกันได้มีคำสั่งให้กักตัวทั้งหมดเกือบ 20 คน จากการสอบถามไปทางโรงพยาบาลเบื้องต้นอยู่ระหว่างสอบสวนว่าใครที่มีความเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ เนื่องจากทีมที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือส่วนมากจะสวมชุดป้องกัน และมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อก่อน

อย่างไรก็ตาม จะได้พิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ