“สยามสปอร์ต” ยืนยันดำเนินธุรกิจสื่อกีฬาต่อไปแน่นอน โดยปรับรูปแบบจากสื่อสิ่งพิมพ์ ก้าวเข้าสู่ช่องทางออนไลน์เต็มระบบ พร้อมนำเสนอคอนเท้นต์กีฬาที่่จัดจ้าน ฉับไว เฉียบลึก ทุกประเด็น โดยทีมงานคุณภาพที่ทุกคนยอมรับ อาทิ บิ๊กจ๊ะ, แจ๊คกี้, บอบู๋, ลิตเติ้ลโจ, คุณฉุย, ไก่ป่า, ตังกุย, เจมส์ลาลีกา, ต่อ ถิรพัฒน์, คุณเฉียบ และทีมงานฟุตบอลสยาม, มวยสยาม ครบครัน รวมถึงเดินหน้าจัดเต็มการถ่ายทอดสด ตลอดจนเกาะติดความเคลื่อนไหวลีกอันดับหนึ่งเอเชียอย่าง เจลีก ญี่ปุ่น ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิอย่างถูกต้องแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
ทีมผู้บริหารสยามสปอร์ต และกองบรรณาธิการ ในนามของ ระวิ โหลทอง ประธานผู้ก่อตั้ง ได้เปิดเผยเกี่ยวกับธุรกิจหนังสือพิมพ์รายวัน ในเครือสยามสปอร์ตว่า ทางสยามสปอร์ตยังคงดำเนินธุรกิจสื่อกีฬาต่อไปอย่างแน่นอน เพียงแต่แค่ยุติการผลิตหนังสือพิมพ์กีฬารายวัน ทั้งสยามกีฬา-สตาร์ซอคเก้อร์ รายวัน, สปอร์ตพูล รายวัน และตลาดลูกหนัง รายวัน จะวางแผงฉบับหัวหนังสือวันที่ 31 สิงหาคม 2566 เป็นวันสุดท้าย
ทั้งนี้ เรามีการทำสื่อกีฬาออนไลน์ครบวงจร ควบคู่กับหนังสือพิมพ์รายวันมาอยู่ก่อนแล้ว รวมถึงการถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลอันดับหนึ่งของเอเชียอย่างศึก เจลีก ประเทศญี่ปุ่น เมื่อหนังสือพิมพ์รายวันยุติการผลิตลง จึงต้องมาเน้นการทำสื่อออนไลน์แบบครบวงจรเต็มที่แบบเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็น ยูทูบ เว็บไซต์ เพจ อินสตาแกรม TikTok ทวิตเตอร์
ในช่วงประมาณสิบปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงของการเสพสื่อของคนทั่วไปได้หันไปเสพสื่อทางออนไลน์มากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์ ทำให้หนังสือพิมพ์รายวัน ที่มีต้นทุนการผลิตสูง ทั่วโลกสื่อสิ่งพิมพ์รายวันค่อยๆ ปิดตัวไปเรื่อยๆ แต่ทางสยามสปอร์ตก็พยายามประคับประคองหนังสือพิมพ์รายวันของเราเอาไว้ให้ถึงที่สุด แม้จะต้องขาดทุนกับการแบกภาระต้นทุน ทั้งค่ากองบก. ที่เรามีส่งผู้สื่อข่าวไปประจำสำนักงานต่างประเทศที่อังกฤษ ตระเวนทำข่าวการแข่งขัน แมตช์สำคัญของโลกมายาวนานหลายสิบปี ส่งผู้สื่อข่าวไปทุกสนามแข่งขันกีฬาทั่วประเทศ ค่าพนักงานคอมพิวต์ ปรู๊ฟ บัญชี การเงิน ฝ่ายบุคคล ค่ากระดาษ ค่าแท่นพิมพ์ ค่าสายส่งจัดจำหน่าย จิปาถะ
ทางเราเองรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายหนังสือ ได้แฟนหนังสือจำนวนไม่น้อยคอยอุดหนุนซื้อหนังสือ แต่เนื่องจากสื่อกีฬารายวัน หาสปอนเซอร์สนับสนุนไม่ได้ง่ายเหมือนหนังสือพิมพ์รายวันอื่นๆ ทั่วไป ที่ยังพอมีกลุ่มการเมือง หรือกลุ่มธุรกิจบ้างมาช่วยสนับสนุน พอเกิดเหตุการณ์ร้านขายหนังสือทยอยกันปิดตัวจำนวนมาก จนเหลือแผงขายหนังสือทั่วประเทศไม่กี่เจ้า ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณ คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ผู้บริหารใหญ่ 7-11 ที่ช่วยอนุเคราะห์ช่องทางการวางขายหนังสือใน 7-11 ด้วย แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อช่องทางการขายหนังสือลดลง ผู้อ่านหาซื้อหนังสือพิมพ์ลำบาก ทำให้ทางเราไม่อาจทนแบกภาระการขาดทุนหนังสือพิมพ์ที่ตกราวเดือนละ 3.5 ล้านบาทไหว จึงจำเป็นต้องยุติหนังสือพิมพ์รายวันไว้แค่นี้
แต่ธุรกิจอื่นของสยามสปอร์ตยังอยู่ ธุรกิจแท่นพิมพ์ เรายังรับจ้างพิมพ์งานเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้เรามีพิมพ์หนังสือให้เจ้าอื่นอยู่หลายเล่ม รวมทั้งการพิมพ์แม็กกาซีน รายสัปดาห์ รายเดือน และหนังสือฉบับพิเศษ เรายังผลิตอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น สตาร์ซอคเก้อร์ รายสัปดาห์, ผีแดง รายเดือน, หงส์แดง รายเดือน เป็นต้น
เช่นเดียวกับการรับจัดอีเวนต์กีฬา และอีเวนต์อื่นๆ ทั่วไป รวมถึงการจัดทัวร์ดูกีฬาต่างประเทศ และทัวร์ท่องเที่ยวทั่วไป เราก็จะดำเนินการอย่างจริงจังเพิ่มรายได้ โดยทีมงานบุคลากรคุณภาพที่มีชื่อเสียง ธุรกิจเหล่านี้จะช่วยให้ทางเราพลิกฟื้นจากขาดทุนหนังสือพิมพ์รายวันจำนวนมาก มาเป็นกำไรในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ แฟนๆ สยามสปอร์ต แฟนหนังสือสยามกีฬา-สตาร์ซอคเก้อร์, สปอร์ตพูล จะพบกับเราเหมือนเดิมทางช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มในทุกๆ วัน โดยเราจะมีคอนเทนต์ใหม่ๆ เพิ่มเติมความเข้มข้น แข็งแกร่ง และน่าติดตามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ เจาะประเด็นข่าวฮอต ข่าวเด่นประจำวัน ทั้งกีฬาไทย และกีฬาต่างประเทศ ของสยามกีฬา การวิจารณ์ฟุตบอลต่างประเทศ แบบเจาะลึกและแม่นยำ โดยสปอร์ตพูล นอกเหนือไปจากการถ่ายทอดสดศึกลูกหนัง เจลีก ที่ปัจจุบันมีนักเตะไทยไปค้าแข้งอยู่อย่าง สุภโชค สารชาติ ที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ อุราวะ เรดส์
ผู้สื่อข่าว คอลัมนิสต์ อินฟลูเอนเซอร์กีฬาของเรา ยังอยู่ในทีมงานข่าวของเราเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น “ยอดทอง”, “บิ๊กจ๊ะ”, “แจ๊คกี้”, “บอบู๋”, “ลิตเติ้ลโจ” และ “ไก่ป่า” ทีมงานที่อังกฤษ, “คุณฉุย”, “ตังกุย”,”เจมส์ ลาลีกา”, “คุณเฉียบ” ฯลฯ
ทั้งนี้ ระวิ โหลทอง ประธานผู้ก่อตั้งอาณาจักรสยามสปอร์ต ยืนยันว่า ในทุกแพลตฟอร์มของสื่อสยามสปอร์ต สยามกีฬา สปอร์ตพูล เราจะทำให้ดีที่สุด และเต็มที่ ไม่ให้แฟนๆ ของเราต้องผิดหวัง