สืบเนื่องจากวานนี้ 1 ธันวาคม 2566 อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดเผยถึงแผนการปรับ Soft power ในปี 2567 โดยจะสร้าง World Water Festival – The Songkran Phenomenon หรือให้ประเทศไทยกลายเมืองแห่งเทศกาล และเทศกาลแรกที่คาดว่าจะมีการผลักดันคือ เทศกาลสงกรานต์ ซึ่ง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร นั้นกล่าวว่า
“แผนงานปีหน้า เริ่มแล้วค่ะ ประชุมคณะกรรมการการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์เมื่อวานนี้ ทั้ง 12 คณะ จาก 11 อุตสาหกรรม ได้เสนองบประมาณเพื่อเตรียมดำเนินการในปีหน้า โดยหลังจากนี้เราจะเสนองบประมาณตามลำดับขั้นตอนต่อไป”
และอีกหนึ่งเรื่องใหญ่และน่าตื่นเต้น คือแผนงานใหญ่ปีหน้า วันสงกรานต์จะไม่ใช่แค่เทศกาลแบบในอดีตที่ผ่านมา แต่เราจะจัดงานใหญ่ มหาสงกรานต์ World Water Festival – The Songkran Phenomenon เราจะปักหมุดให้สงกรานต์ในไทยปีหน้า เป็นเทศกาลที่คนทั้งโลกต้องบินมาเล่นที่บ้านเรา และสงกรานต์ปีหน้า เราจะไม่เล่นน้ำแค่ 3 วันนะคะ แต่จะจัดงานกันทั้งเดือน ทยอยจัดกันทั้งประเทศ 77 จังหวัด
เตรียมวางแผนกันได้เลยนะคะว่าสัปดาห์ไหนของเดือนเมษายน อยากจะไปเล่นน้ำสงกรานต์กันที่จังหวัดไหนค่ะ มาร่วมกันทำให้สงกรานต์บ้านเรา เป็นเทศกาลที่ทั่วโลกต้องปักหมุดมาเล่นน้ำที่บ้านเรา และทำให้ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลโลกค่ะ
ศรีสุวรรณเบรกแรง!!
หลังจากออกมาเปิดเแผนครั้งแรก ก็เรียกได้ว่ามีคำวิพากษ์วิจารณ์ในหลายแง่มุม ล่าสุด 2 ธันวาคม 2566 ทางด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวประเด็นนี้เช่นกัน โดย นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า
ประเพณี หมายถึง สิ่งที่เชื่อถือ และยึดเป็นแนวปฏิบัติสืบต่อกันมาในสังคมหนึ่ง ๆ จนเป็นแบบแผน ขนบธรรมเนียม หรือจารีตประเพณีอันดี
การที่มีคนต้นคิดจริตจะเอาประเพณีสงกรานต์มาทำเป็น soft power ให้เล่นประเพณีสงกรานต์ 2567 กันทั้งเดือนนั้น ถ้าเล่นสาดน้ำกันเกินกว่า 3 วัน 5 วัน ผิดไปจากประเพณีปกติ ถือได้ว่าไม่เป็นไปตามปกติประเพณีของสังคมไทย ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายเกินไปกว่าวันที่ยึดถือปฏิบัติกันมานาน สามารถแจ้งความดำเนินคดีหรือฟ้องร้องผู้ที่ละเมิดและเอาผิดผู้ที่เป็นต้นคิดแหกกฎประเพณีดังกล่าวได้…ตาม ปอ.มาตรา 83 !!!