สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 30 ก.ค. 2564 ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 17,345 คน ยอดสะสม 578,375 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 117 คน เสียชีวิตสะสม 4,679 คน ผู้ป่วยยังรักษาตัวอยู่ 192,526 คน อาการหนัก 4,595 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,012 คน
ผู้เสียชีวิตอยู่ที่กรุงเทพมหานคร 55 คน สมุทรปราการ 9 คน สมุทรสาคร 8 คน ปทุมธานี 6 คน นครปฐม ปัตตานี จังหวัดละ 4 คน นราธิวาส 7 คน กาฬสินธุ์ สุโขทัย นครสวรรค์ ตาก จังหวัดละ 2 คน สงขลา ตรัง ระนอง ร้อยเอ็ด นครพนม อุดรธานี สกลนคร กำแพงเพชร พิษณุโลก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี สระแก้ว พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 คน
ผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย 62 คน เพศหญิง 55 คน คนไทย 112 คน เมียนมา 5 คน อายุตั้งแต่ 33- 92 ปี โดยพบผู้เสียชีวิตที่บ้าน 9 คน
10 จังหวัดพบผู้ติดเชื้อมากที่สุด กรุงเทพมหานคร 3,231 คน สมุทรปราการ 1,386 คน สมุทรสาคร 1,186 คน ชลบุรี 914 คน นนทบุรี 587 คน ฉะเชิงเทรา 479 คน นครปฐม 360 คน อุดรธานี 350 คน ปทุมธานี 330 คน สงขลา 324 คน
ศบค.รายงานพบคลัสเตอร์ใหม่ บริษัทระบบกำลังไฟฟ้า อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10 คน , บริษัทยางรถยนตร์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 14 คน , โรงงานผลิตภัณฑ์ปลา อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 13 คน , โรงงานเครื่องปรับอากาศ อ.เมือง จ.ชลบุรี 15 คน , บริษัทยางรถยนตร์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 25 คน , โรงงานแม่แบบเซรามิก อ.สะเดา จ.สงขลา 13 คน
สำหรับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-29 ก.ค.2564 ทั้งสิ้น 17,011,477 โดส จำแนกเป็นเข็มที่หนึ่ง 13,225,233 คน เข็มที่สอง 3,746,244 คน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงว่า ที่ประชุม ศบค.ได้พูดถึงภาคอุตสาหกรรม โดยภาพรวมของเศรษฐกิจขณะนี้ที่หยุดชะงักไปทั้งหมด แต่เครื่องยนต์ที่ยังคงอยู่ได้คือการส่งออก ซึ่งภาคอุตสาหกรรมยังสามารถดำเนินการได้ ดังนั้น หลายโรงงานที่ยังสามารถเดินหน้าได้ ก็จะสามารถส่งออกสินค้า นำรายได้เข้าประเทศ จึงเป็นสิ่งที่เราจะต้องรักษาระบบของการผลิตเอาไว้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม รายงาน ศบค.ว่า สถานการณ์โควิด-19 มีการระบาดไปยังโรงงาน 518 แห่ง ติดเชื้อ 36,861 คน ครอบคลุม 49 จังหวัด โดย 5 อันดับแรก คือจังหวัดเพชรบุรี 4,464 คน เพชรบูรณ์ 3,487 คน ประจวบคีรีขันธ์ 2,538 คน สมุทรสาคร 2,496 คน สงขลา 2,209 คน
สำหรับอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับประกอบ ด้วยอุตสาหกรรมอาหาร 99 โรงงาน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 74 โรงงาน อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม 42 โรงงาน อุตสาหกรรมโลหะ 42 โรงงาน อุตสาหกรรมพลาสติก 36 โรงงาน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ศบค.จะมีการปรับเปลี่ยนการแถลงข่าว ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลทางเฟซบุ๊กมากขึ้น โดย พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผอ.ศบค.จะเน้นการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนการแถลงข่าวของ ศบค.จะมีเฉพาะวันจันทร์และวันพฤหัสบดี ขณะที่การแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุข จะมีขึ้นทุกวันในช่วงบ่าย ซึ่งจะเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับชุดข้อมูลด้านสาธารณสุข