ผลสะทือนจาก “ไล่หนู ตีงูเห่า” ต่อภายในพรรคภูมิใจไทย น่าศึกษา ติดตาม
เบื้องต้นที่มีการประโคมโหมโรงในเรื่องการเคลื่อนไหว “ไล่หนู ตีงูเห่า” ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษสร้างความหงุดหงิด ไม่พอใจอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะมองผ่าน “ไทบ้าน” ไม่ว่าจะมองผ่าน “รองโฆษก”
เนื้อหาที่สะท้อนออกมาด้วยความร้อนแรงตั้งเป้าที่จะปลุกความรู้สึกในด้านของชาวศรีสะเกษที่มีความแนบแน่นอยู่กับพรรคภูมิใจไทยโดยพื้นฐาน
กระนั้น เมื่อกิจกรรม “ไล่หนู ตีงูเห่า” ปรากฏ น้ำเสียงก็ “เปลี่ยน”
ต้องยอมรับว่าแผนงาน “ไล่หนู ตีงูเห่า” มีการจัดวางเอาไว้อย่างมากด้วยความพร้อม
มาดหมายจะจัดตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน บังเอิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ติดโควิดไม่อาจเดินทางเข้าร่วมงานตามเป้าหมาย
จึงเปลี่ยนเป็น นายพานทองแท้ ชินวัตร และย้ายไปสุรินทร์
เมื่อปักหมุดวันเสาร์ที่ 18 ก็บรรสานเข้ากับการดำรงตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ” ครอบครัวเพื่อไทยของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
จึงกลายเป็นเรื่องอึกทึกอย่างครึกโครมขึ้น
ถามว่าความสำเร็จของยุทธการ “ไล่หนู ตีงูเห่า” มาจากปัจจัยอะไรทางการเมือง
คำตอบ 1 มาจากบารมีของ นายทักษิณ ชินวัตร อันสะสมมาจากยุคพรรคไทยรักไทยต่อเนื่องถึงพรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย
โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงอยู่ในลักษณะ “ตัวแทน”
คำตอบ 1 มาจากกระบวนการจัดงานในความรับผิดชอบของ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ ซึ่งทุ่มทุนสร้างอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
เมื่อมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาเสริมจึงยิ่งอลังการงานใหญ่
เหมือนกับเป้าหมายใหญ่อยู่ที่ “ไล่หนู ตีงูเห่า” พุ่งเข้าใส่พรรคภูมิใจไทยโดยตรง
กระนั้น เป้าหมายอย่างแท้จริงยังคงเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
เพียงแต่ส่งผ่าน “ไล่หนู ตีงูเห่า” เท่านั้น