ความคึกคักของ “สมรสเท่าเทียม” คือ ปรากฏการณ์แทบจะเหลือเชื่อในสังคมไทย
ยิ่งเห็นการเดินหน้าด้วยความคึกคักของหลายคนจากพรรคอนาคตใหม่กระทั่งพรรคก้าวไกล ยิ่งสัมผัสได้ในการ “ก้าวกระโดด” ในทางความคิด
ไม่ว่ามองในด้าน “บุคคล” ไม่ว่ามองในด้าน “พรรค”
ความสำเร็จของร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมที่ผ่านวาระหนึ่งมาด้วยความคาดหวังจึงถือได้ว่าเป็นความสำเร็จโดยตรงของพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล
เป็นการเปิด “พื้นที่” ความเท่าเทียม “ทางเพศ”
การดำรงอยู่ของ “พลังใหม่” อย่างที่สัมผัสได้ในพรรคอนาคตใหม่ แปลกแปร่งจริงๆ
ในอดีต อาจมีนักการเมืองที่มีลักษณะ “เบี่ยงเบน” (ตามสำนวนเดิม) ดำรงอยู่ แต่ก็ดำรงอยู่อย่างกระมิดกระเมี้ยนไม่กล้าแสดงตัวตน
แต่ในยุค “อนาคตใหม่” กลับตรงกันข้าม
ไม่ว่าจะเป็น “ผู้กำกับ ธัญญ์วาริน” ไม่ว่าจะเป็น “พี่เต้อร์” ไม่ว่าจะเป็น “ครูธัญญ์” เปิดเผย ทั้งด้วยคำพูดและการแต่งเนื้อแต่งตัว
นี่คือยุคใหม่อย่างแท้จริงในทางการเมือง
จากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 กระทั่งเดือนธันวาคม 2565 ก็ชัดเจน
ชัดเจนว่าพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล ได้สร้าง “พื้นที่” ทางการเมืองให้กับความเท่าเทียมทางเพศได้อย่างเป็นรูปธรรม
ผ่านกระบวนการ “สมรสเท่าเทียม”
การเคลื่อนไหวของ LGBTQ+ กลายเป็นพลังอย่างมี “กัมมันตะ” ไม่จำกัดเพียงบนถนนสีลม หากแต่สามารถส่งเสียงได้ในเวทีรัฐสภา
แนวโน้มการขานรับ “สมรสเท่าเทียม” เท่ากับเป็น “คำตอบ”
น่าสนใจก็ตรงที่เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นจากปฏิบัติการ “ปักธง” ในทาง “ความคิด”
จากการเคลื่อนไหวในทาง “ความคิด” ค่อยๆ แปรเข้าสู่ปฏิบัติการและการยึดกุมเป็นการเคลื่อนไหวในทาง “การเมือง” อันคึกคัก ทรงพลัง
หนักแน่น จริงจังภายในกระบวนการ “จัดตั้ง”