วิเคราะห์การเมือง – จับสัญญาณ‘แม้ว’ลั่นกลับไทย

Home » วิเคราะห์การเมือง – จับสัญญาณ‘แม้ว’ลั่นกลับไทย


วิเคราะห์การเมือง – จับสัญญาณ‘แม้ว’ลั่นกลับไทย

จับสัญญาณ‘แม้ว’ลั่นกลับไทย

ทําเอารัฐบาลอยู่ไม่เป็นสุข สำหรับการเคลื่อนไหวต้อนรับศักราชใหม่ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

ทั้งการประเมินสถานการณ์การเมือง ฟันธงรัฐบาลจะยุบสภา ได้รัฐบาลชุดใหม่ช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงการประกาศจะกลับมาเมืองไทยในปีนี้

อดีตนายกฯ พูดจริง พูดเล่น หรือเพียงแค่ต้องการเขย่าขวัญรัฐบาลรับปีใหม่

สุเชาวน์ มีหนองหว้า

อดีตคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ฯ มรภ.อุบลฯ

การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ที่บอกว่าอยากกลับบ้าน รวมถึงจะมีเลือกตั้ง ได้รัฐบาลครึ่งปีหลังนั้น มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอยู่ 3 ประการ

1. ไม่ว่าพรรคฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านต่างร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง คือ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งตอนนี้ใกล้เสร็จ คงจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 3 เดือนตามที่ กกต.คาดการณ์ ทำให้ระบบเลือกตั้งกลับไปเหมือนรัฐธรรมนูญ 40 การเลือกตั้งครั้งนั้นทำให้เกิดพรรคไทยรักไทยขึ้นา และทำให้เกิดนโยบายใหม่ๆ ที่โดนใจประชาชนระดับล่างและเป็นที่จดจำ หลายนโยบายยังสืบทอดมายังรัฐบาลปัจจุบันที่นำมาประยุกต์ใช้และมีการเปลี่ยนชื่อ

2.ชื่อเสียงโลโก้ในตัวนายทักษิณยังขายได้ ผลจากการเลือกตั้งปี 62 แม้พรรคเพื่อไทยจะไม่ชนะแต่คะแนนเสียงของพรรคก็ไม่ได้ลดลง ถือว่าพรรคที่เป็นตัวแทนของนายทักษิณยังมีคะแนนนิยมอยู่ รวมทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา ไม่ว่า อบจ.และเทศบาล พรรคเพื่อไทยก็ได้รับการเลือกตั้ง

3.ที่นายทักษิณบอกจะกลับบ้าน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สร้างกระแสข่าวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่ใช้ได้ผล ซึ่งนายทักษิณถนัด ยิ่งยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัยเป็นปัจจัยเกื้อหนุน สมัยที่นายทักษิณเป็นนายกฯ ก็เป็นนายกฯ คนแรกที่ใช้การสื่อสารออกโทรทัศน์วิทยุอย่างต่อเนื่องไม่มีวันหยุด แม้อยู่ต่างประเทศก็ยังสามารถสื่อสารกับประชาชนข้ามประเทศได้

เป็นเรื่องจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่นายทักษิณใช้ความรัก ความห่วงใย การแสดงวิสัยทัศน์ ข้อคิดเห็นของตัวเอง เปรียบเทียบกับการบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบันว่ามีข้อด้อยอย่างไร โดยที่นายทักษิณมีข้อเสนอแนะควบคู่ไปด้วย วิธีที่นายทักษิณใช้ตรงจริตวัฒนธรรมคนไทยระดับล่าง เป็นวิธีการที่ใช้ตรึงฐานเสียง เรียกคะแนนนิยมแบบเนียนๆ

จึงเกิดวาทกรรมที่นายทักษิณพยายามใช้สื่อสารกับประชาชนเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแลนด์สไลด์ทั้งประเทศในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ล่าสุด พรรคเพื่อไทยก็ทำคำขวัญรณรงค์เลือกตั้งเตรียมไว้แล้ว คือ พรุ่งนี้เพื่อไทย ซึ่งเป็นวิธีการที่นายทักษิณใช้ยึดโยงกับประชาชนที่เป็นฐานเสียงของ ตัวเอง ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่ยังนิยมชมชอบผลงานของนายทักษิณและชื่อเสียงของพรรคที่เป็นตัวแทนไทยรักไทย หรือพลังประชาชนที่มาเป็นพรรคเพื่อไทยในวันนี้

ที่นายทักษิณบอกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ช่วงปลายปี 65 เป็นการพูดเชิงล้อเล่นแต่แฝงด้วยความจริงจัง คือเป็นการบอกชาวบ้านว่า ถ้าอยากให้ผมกลับบ้านอย่าลืมเลือกพรรคที่มีตัวแทนของผมอยู่

ในทางจิตวิทยาเป็นการอ้อนขอคะแนนเสียงอย่างแนบเนียน สิ่งที่ได้มาคือการสนับสนุนจากประชาชนที่นิยมพรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังพูดเพื่อกระตุ้นให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และจะเห็นการเตรียมการเลือกตั้ง การขยับตัวจากหลายๆ พรรค รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น แนวโน้มจะมีการเลือกตั้งในปี 65 ค่อนข้างแน่นอนตามที่นายทักษิณพูด

ส่วนนายทักษิณจะกลับมาได้จริงหรือไม่ก็จะโยงไปถึงปัจจัย 3 ข้อที่กล่าว แต่การเมืองไทยมีองค์ประกอบผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้คือกลุ่มที่กุมอำนาจทางการเมือง และการประนีประนอมทางการเมือง ซึ่งองค์ประกอบที่จะทำให้ได้กลับบ้านหรือไม่ คือ 1.กติกาที่เกิดขึ้น เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ตามที่ประชาสัมพันธ์ไว้หรือไม่ และ 2.การสนับสนุนทางการเมืองที่เป็นรูปธรรม นั่นคือคะแนนเสียงจากประชาชนที่นายทักษิณอ้อนไว้

จากที่นักการเมือง นักวิชาการคาดการณ์ กติกาที่จะกลับไปใช้ของรัฐธรรมนูญ 40 เป็นกติกาที่ทำให้พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอย่างชัดเจน ดังนั้น ที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าได้ ส.ส. 253 เสียง ก็มีสิทธิ์

การกลับไทยเป็นจริงได้หรือไม่ หากพูดเชิงนิตินัยโดยนำเรื่องกฎหมายมาพูดกัน ขั้นตอนคงยุ่งยากสำหรับนายทักษิณ แต่หากพูดเชิงพฤตินัยหรือทางการเมือง ถ้ามีการประนีประนอมระหว่างกลุ่มการเมือง คิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้ ดูจากประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตัวละครที่เล่นไม่ได้ต่างไปจากช่วง 7-8 ทศวรรษที่ผ่านมา

แม้ใช้กฎหมายตัดสินก็อาจขัดความรู้สึกประชาชน บางครั้งประชาชนคิดว่าการตัดสินเป็นการเมืองเพื่อโค่นล้มฝ่ายตรงข้าม ต้องมองว่าในเชิงนิตินัยและพฤตินัยไปด้วยกันได้หรือไม่ ซึ่งต้องติดตาม

ยุทธพร อิสรชัย

คณะรัฐศาสตร์ มสธ.

คิดว่านายทักษิณไม่ได้หวังผลที่จะกลับมาจริงๆ เพราะยังมีปัญหาอุปสรรค 2 เรื่องใหญ่ คือทางกฎหมาย และทางการเมือง ในทางกฎหมายนายทักษิณยังมีคดียาวเป็นหางว่าว ที่มีการพิพากษาคดีถึงที่สุดถูกจำคุกก็มี มีทางเดียวหากจะกลับมาได้ คือต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ถ้าออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็จะนำไปสู่ปัญหาที่สองคือปัญหาทางการเมือง

ดังนั้นสิ่งที่นายทักษิณแสดงออกไม่ได้มีเป้าหมายที่จะกลับประเทศจริง แต่เป้าหมายคือพรรคเพื่อไทย

การเคลื่อนไหวที่จะส่งผลต่อการเมือง หรือสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งทั่วไปต้นปี 66 หรือหากเกิดอุบัติเหตุจนมีการยุบสภาก่อน หรือส่งผลต่อการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งผู้ว่าฯกทม. และส.ก. รวมถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 หลักสี่-จตุจักร ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความนิยมของรัฐบาลได้

จะเห็นว่านายทักษิณมีการเคลื่อนไหวเป็นขบวนการ ตั้งแต่ในนาม โทนี่ วู้ดซัม ผ่านเฟซบุ๊กกับกลุ่มแคร์ ในการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ก็เคยประกาศว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ และจะกลับมา จนที่สุดพรรคเพื่อไทยเปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ชี้ให้เห็นว่านายทักษิณยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่ การเคลื่อนไหวก็เพื่อเรียก ขวัญกำลังใจและคะแนนนิยม

มาสู่ปีนี้มีการเคลื่อนไหวบอกจะกลับประเทศก็เพื่อรักษาเสถียร ภาพของพรรคเพื่อไทยไว้ เพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ เป็นเรื่องปกติจะมีกลุ่มย่อยที่มาจากหลากหลายสาย ทั้งพรรคพลังธรรมเดิม พรรคความหวังใหม่ กลุ่มวังบัวบาน หรือกลุ่มของนายทักษิณ มีการขยับเขยื้อนอยู่ตลอดเวลา

จึงมีปรากฏการณ์เลือดเก่าไหลกลับ ซึ่งเป็นบิ๊กเนมหลายคน ก็มีการวิเคราะห์ว่าเมื่อคนเหล่านี้เข้ามาแล้วต้องไปต่อท้ายคนที่อยู่เดิมหรือไม่ นายทักษิณจึงต้องแสดงบทบาท และการเคลื่อนไหวของนายทักษิณครั้งนี้มีผลเขย่ารัฐบาลได้ และเพื่อส่งผลต่อสถานการณ์ทางการเมือง การเตรียมการสู่การเลือกตั้ง

ส่วนหากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาลจะสามารถพานายทักษิณกลับบ้านได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องยากว่าเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ต่อให้เป็นไปตามกระแสข่าว สองพรรคใหญ่คือพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐจับมือกันตั้งรัฐบาลแล้วออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มีแรงต่อต้านแน่

หรือต่อให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งถึงขั้นแลนด์สไลด์ได้จริงๆ การพานายทักษิณกลับก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกันต่อให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมได้ หากจะให้มีผลย้อนหลัง ไม่ต้องติดคุก ต้องดู ในรายละเอียดของกฎหมาย แต่เชื่อว่าไม่มีทาง แทบจะเป็นไป ไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม มองว่าจากนี้นายทักษิณยังมีความเคลื่อนไหวอีกเพราะนายทักษิณถือเป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และการไลฟ์ในระยะหลังมีความถี่

แต่การเลือกตั้งจะเกิดเร็วขึ้นหรือไม่นั้นมีหลายเงื่อนไข คงไม่ได้เกิดจากนายทักษิณเคลื่อนไหว แต่จะเกิดขึ้นจากปัญหาโควิด เศรษฐกิจและความชอบธรรมของรัฐบาล แม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัวหรือไม่ รวมทั้งประเด็นนายกฯ 8 ปี หรือรัฐประหาร เป็นไปได้หมด

พัฒนะ เรือนใจดี

คณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง

การเคลื่อนไหวของนายทักษิณคงต้องการแสดงบทบาท เพราะปี 2565 เป็นปีที่อาจมีการเลือกตั้งใหญ่ช่วงปลายปี หลัง ส.ค.ที่มีการพูดถึงวาระ นายกฯ 8 ปี ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะมีการเลือกตั้งคงเป็นปลายปี แต่ระหว่างทางยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

และจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จึงอาจเป็นสิ่งที่นายทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้อยู่ในกระแส พร้อมๆ กับต้องการแสดงความเห็น ขายความคิด ทั้งเรื่องวัคซีน เศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน จึงถือโอกาสส่งผ่านความคิดเห็นที่จะแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง เพราะจากที่พูดว่าอยากจะกลับบ้านเพื่อมาทำ 3-4 อย่าง หนึ่งในนั้นที่พูดเรื่องเอสเอ็มอี สตาร์ตอัพ และอีกหลายเรื่อง

แต่อย่าลืม คดีของนายทักษิณยังมีอยู่และถ้ายังไม่ได้รับโทษในทางคดีก็ยังไม่จบ ขณะที่กฎหมายเรื่องการนิรโทษกรรมก็ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งนายทักษิณ มีกว่า 10 คดี ในจำนวนนี้มีคดีที่สะเด็ดน้ำแล้ว แปลว่าถ้าเจอก็ต้องจับนำเข้าเรือนจำ ดังนั้น เป็นไป ไม่ได้ถ้าจะกลับมาแล้วไม่มีกฎหมายรองรับ

ถามว่าที่พูดจริงจัง หรือต้องการเขย่ารัฐบาลเท่านั้น นายทักษิณหายไปนานแล้ว แม้จะมีคนที่ยังรักยังผูกพันอยู่ แต่ เวลานี้มีพรรคใหม่ๆ ที่มีแนวคิดไม่แตกต่างกับพรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นเยอะ มีคนที่มีความรู้ ความสามารถมากขึ้น นายทักษิณก็ต้องพยายามขายตัวเองว่ายังมีความสามารถอยู่ แต่ความสามารถตรงนี้จะได้เอามาใช้หรือไม่ ต้องดูหลังการเลือกตั้งทั่วไป และถ้าไม่ได้เสียงแบบแลนด์สไลด์การจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็คงเป็นไปไม่ได้

ประเมินว่านายทักษิณมีความคิดจริงจังที่อยากกลับบ้าน เพราะ 14-15 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 2549 แต่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ถ้าไม่มีกฎหมายนิรโทษก็เป็นไปไม่ได้ ยิ่งในสถานการณ์ที่พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาลยิ่งเป็นไปไม่ได้

ส่วนที่พูดว่ามีดีลระหว่างผู้ใหญ่นั้น ปัญหาไม่ใช่ระหว่าง 3 ป. กับนายทักษิณแล้ว แต่เป็นกลุ่มผลประโยชน์ในพรรคหลายกลุ่ม และโยงไปถึงเงื่อนปมทางธุรกิจหลายเรื่อง จึงมีบริบทอีกหลายส่วน

นายทักษิณจะได้กลับหรือไม่ได้กลับ ต้องดูหลังเลือกตั้งทั่วไป เพื่อไทยและพรรคพันธมิตรจะได้รับคะแนนเสียงมามากน้อยแค่ไหน จะเป็นปัจจัยสำคัญ ส่วนการออกกฎหมายออกได้ทั้งนั้นถ้าเสียงข้างมากในสภาให้ผ่าน แต่จะมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงต้องดูหลังการเลือกตั้งทั่วไป ถ้าไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้คะแนนเสียงไม่มาก การจะกลับมาก็ยิ่งห่างไกล

ส่วนที่มองว่าเจตนานายทักษิณแค่ต้องการเขย่ารัฐบาล คิดว่าถ้าไปพูดตอนใกล้เลือกตั้งคือปลายปี หลังเดือนส.ค.จะมีน้ำหนักมากกว่า เมื่อมาพูดก่อนจะเกิดการตั้งการ์ด แก้ลำ และจะเป็นความยากลำบากในการทำงานของพรรคเพื่อไทยต่อไป อย่างไรก็ตาม เป็นการมองในฐานะคนนอก แต่เขาเป็นนักการเมือง อาจจะคิดว่าการเลือกตั้งจะเร็วกว่าที่เราคิดก็ได้ ถึงได้พูด

และเวลานี้พรรคต่างๆ เริ่มตั้งสาขา วางตัวผู้สมัคร รณรงค์ขึ้นป้ายอย่างเอิกเกริกผิดสังเกต นักการเมืองอาจมีสัญญาณของเขาจึงขยับแต่เราไม่ทราบว่าคืออะไร

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ