วิษณุ ชี้ไม่มีประเทศไหนในโลก ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบหาร 500 ขออดใจรอคำตอบจากรัฐสภา ชี้ไม่ว่าจะออกแบบไหนสุ่มเสี่ยง เชื่อมีคนยื่นศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง วันที่ 5-6 ก.ค.ว่า รัฐบาลไม่มีการเสนอความเห็นไป

เมื่อถามว่าพรรคเล็กเสนอหากใช้สูตรหาร 500 จะต้องตีความว่า ส.ส.พึงมี ไม่เช่นนั้นพรรคใหญ่จะได้บัญชีรายชื่ออยู่ดี นายวิษณุ กล่าวว่า เขาไปยึดคำว่าส.ส.พึงมีในกฎหมาย ซึ่งการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ยังต้องยึดคำว่าส.ส.พึงมี เพราะอยู่ในรัฐธรรมนูญ แต่การตีความอาจต่างไปจากเดิม และไม่ได้อยู่ในมาตราที่แก้ไข จึงแปลแบบเก่าไม่ได้ มันมีวิธีแปลอยู่ และตนไม่ได้ติดใจเรื่องนี้ แต่ปัญหาคือ จะหารแบบไหนถึงจะเป็นธรรมมากกว่ากัน และเป็นธรรมกับใคร เป็นธรรมกับพรรคเล็กหรือพรรคใหญ่

“ความจริงที่ต้องดูคือหลักการ ไม่ได้ดูว่าพรรคเล็กพรรคใหญ่ อีกทั้งหลักการที่ถูกต้องไม่ใช่คะแนนที่ตกน้ำ เพราะคะแนนไม่ตกน้ำเป็นหลักตอนที่ร่างรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อแก้รัฐธรรมนูญ 2 มาตราตามร่างของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ความตั้งใจก็เปลี่ยนไป” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่ามาตราที่แก้ไขกับมาตราที่เหลือ ย้อนแย้งกันเอง สุดท้ายไม่ว่าไปทางไหนก็สุ่มเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สุ่มเสี่ยง ตนถึงบอกว่าสุดท้ายจะมีคนสงสัย ไม่ว่าพรรคเล็กพรรคใหญ่ ก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี โดยศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วบอกทางออกไว้ให้

ส่วนที่นายวิษณุเคยระบุหากใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้วมาหารด้วย 500 จะเป็นเรื่องประหลาดนั้นหมายความว่าอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า บอกไม่ถูก เอาเป็นว่าประหลาดแล้วกัน แต่ประหลาด ไม่ได้แปลว่ามันผิด เอาเถอะอีกวันสองวัน ก็รู้เรื่องแล้ว เขาจะว่าอย่างไรก็ว่ากัน คิดว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าววันครึ่งก็เสร็จ จะมีคำตอบโดยรัฐสภา

เมื่อถามว่ารูปแบบบัตร 2 ใบแล้วหารด้วย 500 มีใครทำกันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า วิธีนับคะแนนแบบนี้เป็นวิธีที่ไม่ค่อยมีใช้ในโลก ไม่ว่าจะเอาอะไรหารก็ตาม แต่วิธีของใครของมันไม่เกี่ยวกัน

เมื่อถามว่าคิดว่าการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อควรหารแบบใด นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ขอตอบ ขณะนี้กฎหมายอยู่ในมือรัฐสภาแล้ว ให้เขาทำไปก่อน อย่ามาถามตน หรือซีกรัฐบาลเลย ส่วนวันที่ 5 ก.ค. ตรงกับการประชุมครม.นั้น แม้รัฐมนตรีหลายคนเป็นส.ส. ก็ไม่มีปัญหา เพราะวันที่ 5 ก.ค. จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติก่อน กว่าจะได้พิจารณากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ก็ช่วงบ่าย รัฐมนตรีที่เป็นส.ส.สามารถร่วมประชุมได้