กรมอนามัย วิจัยพบคนไทย 76% มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง นั่งนานกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน แต่ 72% ยังมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ คนเมืองมีการขยับมากกว่าคนชนบท เป็นปีแรก ผู้หญิงมีกิจกรรมทางกายมากกว่าผู้ชาย ย้ำมีอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ลดเสี่ยงป่วยโรคเรื้อรัง
27 มี.ค. 66 – นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสุขภาพระหว่างประเทศไทย (IHPP) ศึกษาวิจัยสถานการณ์การมีกิจกรรมทางกายเพียงพอและพฤติกรรมเนือยนิ่งของคนไทย
โดยวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมสุขภาพคนไทยในปี 2564 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ผู้ที่มีอายุ 18 – 80 ปี จำนวน 78,717 คน ครอบคลุม 77 จังหวัด พบว่า 76% มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง โดยการนั่งตั้งแต่ 7 ชั่วโมงขึ้นไปต่อวัน และ 72% มีกิจกรรมทางกายเพียงพอ ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ 150 นาทีต่อสัปดาห์
สาเหตุหนึ่งที่คนไทยมีพฤติกรรมเนือยนิ่งสูง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานที่ใช้แรงกายลดลง เช่น จากการทำงานภาคเกษตรกรรม หรืออุตสาหกรรม เป็นรูปแบบการนั่งในห้องทำงานแทน ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากอัตราการเผาผลาญพลังงานต่ำ
นอกจากนี้ ยังพบว่า คนไทยมีการทดแทนการขยับร่างกายที่น้อยในการทำงาน ด้วยการออกกำลังกายหรือมีกิจกรรมนันทนาการในยามว่างแทน โดยเฉพาะคนเมือง พบว่า มีสัดส่วนกิจกรรมทางกายในนันทนาการ และการเดินทางมากกว่าคนชนบท เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางกายภาพในการเข้าถึงสถานที่นันทนาการ โครงสร้างพื้นฐานในการเดิน อาทิ ทางเดินเท้า การผังเมือง
รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะ ในเมืองดีกว่าชนบท ซึ่งการมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ จะลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง เป็นต้น
นพ.ระพีพงศ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผอ.สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าวว่า ผู้หญิงมีอัตราส่วนการมีกิจกรรมทางกายเพียงพอมากกว่าผู้ชาย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พบปรากฎการณ์นี้ จากการสำรวจระดับกิจกรรมทางกายในประเทศไทยมากว่า 30 ปี แสดงถึงความตื่นตัวต่อการขยับร่างกายในชีวิตประจำวัน รวมถึงการออกกำลังกายในเพศหญิง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี
การศึกษาครั้งนี้ สำนักงานสถิติได้เก็บข้อมูลทุกจังหวัดในประเทศไทยในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด 19 ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อระดับการมีกิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งที่ต่างจากช่วงปกติก่อนมีการระบาดของโควิด 19