แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – United Front of Thammasat and Demonstration โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แนวร่วมฯ นัดรวมตัวชุมนุมกันในเวลา 14.00 น. ของวันที่ 18 ก.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยืนยันข้อเรียกร้องสำคัญ โดยเฉพาะการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สำหรับกลุ่มที่จะเข้าร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG, ขบวนการริมสระ, คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวัง DemHope, เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย, ทะลุฟ้า, เฟมินิสต์ปลดแอก, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, เยาวชนปลดแอก FreeYOUTH, ราษฎรมูเตลู, ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย, สหภาพคนทำงาน, สหภาพไรเดอร์, SUPPORTER THAILAND และ We Volunteer
นอกจากนั้น นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มคาร์ม็อบ จะจัดกิจกรรมในวันเดียวกัน ร่วมกับแนวร่วมในหลายจังหวัด โดยระบุว่า “เปิดแล้วแฟรนไชส์ Car Mob แต่ละจังหวัด ใครที่พร้อมจัดกิจกรรม Car Mob ในนามจังหวัดตนเอง สามารถติดต่อมาทาง Inbox จะได้ขยายจักรวาล Car Mob ให้เกรียงไกรสะท้านบัลลังก์ประยุทธ ขับ-ไล่ ทั่วไทย ไฉไลทั่วประเทศ”
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า จากที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่มแนวร่วมอื่นๆ โพสต์ประกาศทางเฟซบุ๊กนัดชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเดินไปทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 18 ก.ค. เวลา 14.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมกำลังสำหรับการดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่และจัดจัดกำลังในการดูแลสถานที่สำคัญด้วย
โดยประเมินสถานการณ์การชุมนุมในวันพรุ่งนี้ อาจจะมีการตั้งเครื่องกีดขวาง ในเส้นทางสำคัญที่คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้ทำกิจกรรม และยอมรับว่ามีความเป็นกังวลเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในการชุมนุม โดยเฉพาะกลุ่มการ์ดและกลุ่มอาชีวะ ซึ่งล่าสุด ตำรวจนครบาลประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 1 หลังเกิดความวุ่นวายในการชุมนุมที่หน้ากระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี เมื่อวานนี้ ซึ่งหากตำรวจภูธรภาค 1 ออกหมายจับผู้กระทำผิดในการชุมนุมเมื่อวานนี้ และตำรวจนครบาล พบว่า เข้ามาในพื้นที่การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ตำรวจจะดำเนินคดีทันที
พล.ต.ต.ปิยะ ยืนยันว่า ตำรวจจะใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ควบคู่ไปกับการดูแลการชุมนุม หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 6 ซึ่งมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องรับโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ