จากกรณีหญิงรายหนึ่งโพสต์ข้อความหลับได้รับผลกระทบจากผู้ใช้ “กัญชา” ที่อยู่ภายในคอนโดเดียวกันจนทำให้ลูกของเธอนั้น เกิดอาการช็อกและหมดสติในเวลาต่อมา โดยเธอระบุข้อความว่า “ช่วยแชร์กันหน่อยค่ะ ใครก็ได้ขอให้มันมี ผลต่อกฎหมายหน่อยค่ะ” เราได้รับความเดือดร้อนจากคอนโดข้างห้องโดยที่มีต่างชาติเพิ่งมาเช่าคอนโด และได้มั่วสุมดูดกัญชาจนส่งกลิ่น โถงทางเดินส่วนกลาง ทำให้ลูกชาย ต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหันเรียกรถฉุกเฉิน ลูกชายไม่ได้สติและพูดจาไม่รู้เรื่อง เกิดอาเจียน 3 รอบเนื่องจากได้รับกลิ่นกัญชาข้างห้องแต่กฎหมายไทยไม่สามารถทำอะไรได้เลย ว่ามีคนเปลี่ยนแปลงกฎหมายทำให้กัญชงกัญชามีเสรี แม้แต่จะแจ้งความก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เราได้รับความเสียหายจากคนดูดกัญชา เราได้จ่ายค่าโรงพยาบาลไปและเจ้าของห้องและผู้เช่าไม่ยอมชดใช้ ค่าโรงพยาบาลเราจะทำยังไงได้บ้างขอให้มีประโยชน์ ต่อเรื่องนี้เถอะกลัวว่าในอนาคตถ้าเกิดไม่ใช่แค่ลูกเราหรือคนอื่นที่ได้รับกลิ่นกัญชาถึงขั้นเสียชีวิต จะทำยังไงต่อไป

ซึ่ง กัญชาทางการแพทย์ นโยบายที่เกิดขึ้นในช่วง รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ โดยมี นายอนุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นเรือธงในการออกนโยบายนี้ ซึ่งตามความตั้งใจคือ ต้องการใช้ผลประโยชน์ของสารบางชนิดที่อยู่ในตัวกัญชา โดยพ.ร.บ.กัญชา กัญชง เป็นการดำเนินการทางการแพทย์ และการวิจัยเท่านั้น ไม่มีนโยบายเปิดเสรี นันทนาการหรือสันทนาการ แม้ว่า จากข้อมูลวิจัยชี้ว่าเมื่อกัญชาถูกปลดล็อกจากยาเสพติดแล้ว มูลค่าของตลาดกัญชาเติบโตขึ้น 2.1 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับภาคเอกชน เท่าที่ตนได้ทำการสำรวจมามี 21 บริษัทที่ลงทุนไปแล้วในกัญชา แต่ส่วนของกัญชงที่เป็นตลาดใหญ่กว่า โดยเฉพาะในฝั่งอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสกัดสาร CBD มาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และแทบจะไม่มีสาร THC อยู่เลย

• ชี้ชัด ขยายเวลาเปิดผับ พร้อมอนุญาตขยายเวลา ขายสุราได้ถึง ตี 4
• ยืนยันแล้ว ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ แน่! คาดเร็วสุดภายในปีนี้
• นโยบายแจกที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ป.ป.ช. จับตาจ่อเรียกหน่วยงานแจงข้อมูล

จากการตรวจสอบ สถิติ 6 เดือนหลังปลดล็อกกัญชา ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข จำนวนผู้ป่วยจากการเสพติดกัญชาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากจาก 72 เคสต่อเดือนก่อนการปลดล็อกไปเป็น 282 เคสต่อเดือนทันทีหลังมีการปลดกัญชาออกจากการเป็นสารเสพติด นอกจากนี้ ยังมีสถิติออกมาอีกว่าในปี 2022 ที่ผ่านมา ผู้เสพติดกัญชายังคิดเป็นถึง 17% ของผู้ป่วยโรคทางจิตที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด เพราะกัญชามีสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ทำให้หากมีการบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป ผู้เสพอาจมีความดันโลหิตเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ใจสั่น สติแปรปรวน ประสาทหลอน เกิดภาพหลอน หูแว่ว และมีโอกาสป่วยเป็นโรคจิตเวช และเกิดอาการประสาทหลอนอย่างถาวร สูงถึง 20%

งานนี้กลายเป็นปัญหาที่ นายแพทย์ชลน่าน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาระสุข ว่าจะปล่อยปัญหาเหล่านี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะอย่างที่ใครหลายคนคงทราบกันดีว่า ในปัจจุบันมีร้านค้าที่เปิดทำการขายผลิตภัณฑ์กัญชาอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่ได้มีการจำกัดอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผลิภัณฑ์ได้อย่างง่ายด่าย ซึ่งปัญหาที่กล่าวไปข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าทางการไทยยังไม่สามารถควบคุมให้ปริมาณการบริโภคกัญชาของประชาชนบางส่วนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ และถ้าหากไม่มีการดำเนินการควบคุมอย่างรัดกุม กัญชาก็อาจกลายเป็นพืชที่ทำลายมากกว่าจะส่งเสริมเศรษฐกิจ แถมยังทำให้ไทยต้องเสียงบประมาณบางส่วนไปกับการรักษาผู้ป่วยเสพติดกัญชาอีกด้วย

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY