ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น รู้ตัวคนไม่ชอบเยอะ น้อยใจโดนด่าตลอด เผยเหตุลงรูปชุดว่ายน้ำถี่ เปิดหัวใจ วัย 18 เรียนจบม.6 หนุ่มๆ เข้าหาเยอะ เผยสเป๊กที่ชอบ
นักร้องสาวแดนใต้ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” โตเป็นสาว วัย 18 ปี ช่วงหลังลงรูปชุดว่ายน้ำสุดแซ่บแบบถี่ๆ ทำคนสงสัยหรือสถานะหัวใจกำลังเป็นสีชมพู พร้อมเปิดมูลค่าของขวัญหลังเรียนจบที่พี่สาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เปย์ให้ รวมไปถึงเรื่องที่น้อยใจพี่เพราะไม่ชอบอยู่กรุงเทพฯ ถ้าเลือกได้ขอกลับไปอยู่ใต้เหมือนเดิม ผ่านรายการคุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เรียนจบ ม.6 แล้ว? ลิลลี่ : “ใช่ค่ะ ก็เกือบติด 0 ติด ร. อยู่นะ(หัวเราะ)”
อันนี้พูดจริงหรือพูดเล่น? ลิลลี่ : “พูดจริงค่ะ เพราะหนูไม่ค่อยมีเวลา คือหนูจะมีเวลาก็ต่อเมื่อไม่มีงานและไปของานจากครูแล้วเอามาเคลียร์ทั้งหมด”
ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอย่างที่ทุกคนรู้? ลิลลี่ : “ใช่ค่ะ เหนื่อยค่ะ เพราะมันไม่ได้เจอแค่เรื่องงานข้างในและข้างนอก แต่มันยังเจอสังคม เคยร้องไห้แต่รู้สึกว่าเราร้องไห้ไปก็แค่นั้น ถ้าจะร้องไห้เอาเวลาไปทำการบ้านดีกว่า”
เราจัดการเรื่องเรียนกับเรื่องงานและความรู้สึกตัวเองยังไง? ลิลลี่ : “ถ้าเรื่องงานหนูจะมีพี่เจนช่วยอยู่แล้ว เพราะพี่เจนเป็นคนรับงานทุกอย่าง แต่ถ้าเรื่องเรียนก็จะมีเพื่อนช่วยเหมือนกันเก็บงานอันนั้นให้อันนี้ให้ และถ้าไม่เข้าใจหรืออะไรก็จะถามเพื่อน แต่ถ้างานไม่ไหวก็จะให้พี่แดนซ์เซอร์ช่วยอย่างเรื่องพิมพ์งานหรือข้อสอบ”
เรื่องสังคมโรงเรียนคือเรื่องอะไร ที่บอกทำให้หนักใจ? ลิลลี่ : “สังคมโรงเรียนคือเราไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนเพื่อน คือบางมุมเราก็ต้องเข้าใจว่า ไม่ได้มีใครชอบเราทุกคน เรามองว่าสังคมโรงเรียนเป็นอะไรที่สนุกและสดใส เพราะมันเป็นวัย 13-18 แต่บางมุมของหนูคือเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็ไม่ได้ชอบเราเสมอไป และพอมีข่าวเรื่องเสียหายคนที่แชร์ข่าวเราคือคนในโรงเรียนเราก็เลยรู้สึกแย่ เพราะมันคือคนใกล้ตัวเราก็แค่คิดว่าคนใกล้ตัวมันก็ต้องสนับสนุนกันสิ ถ้าไม่สนับสนุนก็ไม่จำเป็นต้องไปแชร์ในเรื่องราวที่ไม่ดีของเรา”
ลึกๆ เขาแอบอิจฉาหรือเปล่า? ลิลลี่ : “คือหนูไม่รู้เหมือนกัน จริงๆ ถ้าหนูไม่ชอบใครหรืออิจฉาใครหนูก็จะอยู่เงียบๆ”
แล้ว ณ วันนี้อโหสิให้เขามั้ยเพราะเรียนจบแล้ว? ลิลลี่ : “เรารู้สึกว่าเขาไม่ได้มาเป็นเรา ถ้ามาเป็นเราเขาก็จะเข้าใจ”
ได้มีโอกาสเคลียร์กับเขามั้ย? ลิลลี่ : “ไม่ค่ะ เพราะคนไม่ชอบน่าจะเยอะอยู่(หัวเราะ)”
ในสังคมโรงเรียนที่กลุ้มใจเพราะคนไม่ชอบเยอะกว่าคนที่ชอบเราคิดไปเองหรือเปล่า? ลิลลี่ : “ไม่ได้คิดไปเองค่ะ อย่างแชร์ๆ กันข่าวหนูก็จะเข้าไปดูก็จะมีคนนี้อยู่โรงเรียนเดียวกับเรา อ้าวแล้ววันนั้นยังยิ้มให้กันอยู่เลย ยกมือไหว้กันอยู่เลย ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมายิ้มให้ดีกว่า”
ตอนนี้รู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่หรือยัง? ลิลลี่ : “บางมุมค่ะ บางมุมเป็นเด็กบางมุมเป็นผู้ใหญ่ บางมุมที่เป็นเด็กเพราะเรายังอยากอ้อนแม่อยู่ บางทีไปนอนตักแม่บอกให้แม่อุ้มหน่อย แม่ยังอุ้มไหว”
เรียนจบแล้ว เจนนี่กับคุณแม่ให้อะไรเป็นของขวัญบ้าง? ลิลลี่ : “พี่เจนจะให้เป็นพวกมาลัยเงินหลักหมื่น ส่วนคุณแม่จะให้เป็นสร้อยเล็กๆ จริงๆ ไม่ได้หวังว่าจะให้เงินหลักแสนหรือรถอีกคัน เพราะรู้สึกว่าการที่เขาให้ถือว่าเขายินดีกับเราแล้ว เพราะเขาก็ซัพพอร์ตเราเสมอ หนูได้เกรดแต่ละเทอมหนูก็จะเอาไปโม้ แต่ไม่ได้ต้องการให้เขาซื้อของขวัญให้หนูหน่อย แค่จะบอกว่าหนูทำได้แค่นี้นะเพราะหนูทำงาน ถ้าเขาซื้อของขวัญให้มันก็เป็นทั้งกำไรและโบนัส ส่วนของขวัญมูลค่าเกิน 5 หมื่น ก็ถือว่าเยอะมาก”
ไม่ได้คาดหวังกับสิ่งที่จะได้ แล้วหนูคาดหวังอะไรมั้ย? ลิลลี่ : “ไม่ได้หวังอะไรค่ะ แค่ครอบครัวไม่ได้ทะเลาะกันแล้วมีกินแบบทุกวันนี้ก็ดีมากแล้ว”
ของขวัญวันเกิดที่มีดราม่าหนัก? ลิลลี่ : “รถคันนี้เป็นรถมินิคูเปอร์เอสสีเขียวมะนาว หนูไม่ได้อยากได้สีนี้มันแปร๊ดไป ไม่คิดว่าพี่เจนกับแม่จะเลือกสีนี้ให้ มันเป็นรถในฝันเพราะอยากได้ตั้งแต่ ม.2-ม.3 แล้ว มันเปิดข้างบนได้ และกะทัดรัดสวยงามอ้วนๆ”
ส่วนดราม่ามาได้ยังไง? ลิลลี่ : “คือหนูไปโผล่หัวขึ้นหลังคา แล้วหนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีดราม่า พี่เจนส่งมาหนูก็ตกใจทุกคนด่าหนูเหรอ สรุปด่าหนูก็อยู่เฉยๆ รถไม่ได้วิ่ง”
อ่านทุกข้อความคอมเมนต์เลยเหรอ? ลิลลี่ : “อ่านหมดค่ะ ขนาดเรายังไม่รู้เลยว่าเป็นข่าว ไม่มีอันไหนที่ปรี๊ดสุดเพราะพยายามมองข้าม แค่ไม่เก็บความคิดพวกนั้นมาตอนที่เรายังดีใจอยู่”
ลิลลี่อายุ 14 กับ 18 ทุกวันนี้จัดการความรู้สึกที่โดนคอมเมนต์แรงๆ ได้ดีขึ้นหรือยัง? ลิลลี่ : “หนูรู้สึกว่าดีขึ้นเพราะเจอมาเยอะ และพี่เจนก็สอนมาตลอด ถ้าเป็นเรื่องนี้เราก็รู้สึกว่าโตกว่าคนอื่น”
คิดมั้ยว่าอะไรที่ทำให้เราโดนว่าอยู่ตลอด? ลิลลี่ : “อาจจะเป็นเพราะมีคนไม่ชอบ แล้วหลายๆ สื่อที่ออกมาถ้ามีกระแสหรือผลต่อเขาก็ทำออกมาอีก เพราะหนูกับพี่เจนก็จะมีคนไม่ชอบเยอะ”
เคยน้อยใจมั้ยว่าวัยแบบเราแต่ต้องมาเจอแบบผู้ใหญ่ คำด่า คอมเมนต์ที่รู้สึกว่ามันหนักไป? ลิลลี่ : “น้อยใจค่ะ การที่หนูเป็นแบบนี้เพราะหนูมีงานมีชื่อเสียง ถ้าหนูไม่มีสองอย่างนี้หนูก็จะไม่มีเงิน”
อายุ 14 แล้วดังตู้มเลย ตอนนี้อายุ 18 แล้ว ตอนนั้นรู้สึกยังไง? ลิลลี่ : “หนูก็ยังตกใจกับตอนนั้นเพราะไม่คิดว่าพี่เจนดังไปแล้วคนนึงแล้วมันก็สุดยอดมากแล้ว เพราะพี่เจนได้ซื้อบ้านให้ครอบครัวเพราะเป็นสิ่งที่ครอบครัวอยากได้ มันเหมือนความฝันไม่คิดว่าหนูจะดังอีกคน งานเยอะมาก ยอดวิวเยอะมาก คนชอบเยอะมาก ไม่คิดว่าพี่เจนไปออกคอนเสิร์ตทุกวันหนูจะได้ทำอย่างนั้นด้วย มีคนกรี๊ดด้วย”
สิ่งที่เพื่อนเรามีแต่เราไม่มีคือชีวิตวัยรุ่นหายไป เสียดายมั้ย? ลิลลี่ : “ก็รู้สึกเสียดาย เพราะหนูเป็นคนที่แม่หวงด้วย ถ้าจะไปขี่รถเครื่องแม่ก็ห่วงด้วย มีคนมาขอถ่ายรูป แต่ถ้าต้องแลกกับเงินทองที่มาซื้อบ้านและอย่างอื่นให้กับครอบครัวหนูโอเค”
มีช่วงจังหวะเวลาที่เขวหรือหลุดมั้ย พอมีเงินทองชื่อเสียงมา? ลิลลี่ : “น่าจะมีช่วงแรกๆ หนูไม่เคยอยู่ในสังคมนี้เลยไม่รู้ต้องทำตัวแบบไหน คือไม่มีคะ ขา ฟังดูเป็นเด็กก้าวร้าว นิสัยไม่ดี”
เคยคิดว่าลืมตัวมั้ยพอดังขึ้น? ลิลลี่ : “ไม่เคยนะคะ เพราะพี่เจนกับแม่จะคอยเตือนอยู่ตลอด”
ช่วงหลังอินสตาแกรมลิลลี่จะเห็นลงรูปชุดว่ายน้ำบ่อย? ลิลลี่ : “หนูคิดว่าคนเราต้องมีหลายร่างในคนเดียวกัน คนอาจจะเห็นเราในชุดนอน ชุดกีฬาเราก็ถ่ายลง พอชุดว่ายน้ำทำไมจะถ่ายลงไม่ได้ เห็นพี่เจนลง เราก็เลยถ่ายบ้าง พอถ่ายเสร็จเราก็ใส่เสื้อกีฬาแล้วกางเกงลงเล่นน้ำ เราเอาไปหลายๆ ชุดแล้วก็เปลี่ยนถ่าย ไม่ใส่ซ้ำ ใส่เสร็จก็เอาไปขาย”
เคยเจอโรคจิตมั้ย เพราะดาราเจอมาเยอะ เรื่องชุดชั้นในอะไรแบบนี้? ลิลลี่ : “ถ้านางแบบเซ็กซี่มันก็น่าจะมีโรคจิต แต่หนูไม่ได้เซ็กซี่เลยไม่โดน”
มีพี่สาวหรือแม่ช่วยสกรีนชุดมั้ย? ลิลลี่ : “จริงๆ ไม่ต้องถึงแม่กับพี่เจนเพราะหนูรู้ควรทำแบบไหนเซฟตัวเองใส่ซัพในทั้งชุดขึ้นคอนเสิร์ตและชุดว่ายน้ำ”
เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าถ้าจบ ม.6 จะมีแฟน ตอนนี้มีแฟนหรือยัง? ลิลลี่ : “ยังไม่มี”
มีคนมาจีบมั้ย? ลิลลี่ : “ถ้าคนเข้าหาเยอะ ไม่มีจีบ ถ้าสเป๊กที่คิดไว้อายุน้อยหรือมากกว่าไม่เกิน 3 ปี สูงกว่า ชอบคนผิวคล้ำ ไม่ 15 ก็ 21 ไม่ผอมและไม่อ้วน นิสัยอบอุ่นเข้าใจ และรับตัวเราได้ เพราะเราไม่เหมือนคนอื่น”
ที่ไม่เหมือนคนอื่นคือยังไง? ลิลลี่ : “หนูทำงานเยอะด้วยและไม่ค่อยมีเวลาด้วย ถ้าสมมติว่าเข้าใจและรับข้อนี้ได้ เราก็น่าจะคุยกันได้ ถ้าจะเปิดรับคือถ้ามีเวลาค่อยไปดูหนังด้วยกัน ไม่ถึงขนาดต้องตามไปเฝ้าขอบเวทีคอนเสิร์ต แต่ถ้าอยากมาดูก็มาดูได้”
เรียนจบแล้ว แพลนที่จะไปเรียนต่อที่ไหน? ลิลลี่ : “แอบคิดกรุงเทพฯ 10% แต่ที่บ้านดีกว่า ไม่ชอบรถติด คนเยอะ สั่งอาหารมาทานที่บ้านค่าส่งแพง”
พี่เจนอยากย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ลิลลี่ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร? ลิลลี่ : “ไม่เห็นด้วยค่ะ เหตุผลที่หนูบอกไป แม้จะใช้ถนนเรายังต้องจ่ายค่าทางด่วนเลย แล้วกรุงเทพฯ รถติด แค่ชาไทยที่กรุงเทพฯ ยังสู้ที่บ้านหนูไม่ได้เลย รสนิยมเด็กบ้านๆ เราอยากอยู่แบบนั้น คืออยู่ทางนั้นของถูกกว่า ทำงานมาได้เราก็อยากเก็บเงิน ถ้างานเราอยู่ที่นี่มากขึ้น อาจต้องย้ายมา ก็มาได้แต่ถ้าต้องให้เลือกก็อยากอยู่ที่นู้น เดือนนี้ก็มาที่กรุงเทพฯ 2-3 สัปดาห์แล้ว อยู่บ้านพี่เจน”
ถ้าต้องมาทำงานที่นี่อยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองมั้ย? ลิลลี่ : “อยากมีเพนเฮ้าส์ เพราะมันสูงแล้วสวยดี”
น้อยใจพี่สาวรุนแรงมาก เรื่องอะไร? ลิลลี่ : “เป็นเรื่องที่พี่เจนมาอยู่กรุงเทพฯ เนี่ยแหละ เพราะหนูกับแม่จะชอบที่ใต้เพราะของราคาถูก แต่พี่เจนจะบ่นเสมอว่าอยากให้ทุกคนกินข้าวพร้อมหน้า เราก็คุยแต่พี่เจนบอกว่าจำเป็นต้องอยู่เพราะงานเขาอยู่ที่นี่มากกว่า ก็คุยกันจริงๆ จังๆ ค่ายก็ให้ลิลลี่ช่วยดู จะมาเมื่อไหร่เดี๋ยวพี่จองตั๋ว ก็มาได้ตลอด”
ถ้าพี่สาวดูอยู่อยากบอกอะไรกับพี่สาว? ลิลลี่ : “ขอบคุณที่ดูแลน้องอย่างดีมาตลอด รู้ว่าพี่มีภาระหลายอย่างแต่ก็ยังคอยหางานให้น้อง และยังดูแลน้องหลายอย่างขนาดมีลูกและสามีแล้ว”
คลิปสัมภาษณ์ ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น