สมุทรสงคราม อากาศร้อนจัดนานเป็นเดือน ลิ้นจี่ลูกดก เริ่มยืนต้นตายเสียหายครึ่งสวน เกษตรจังหวัดแนะเร่งทำสาวหวังรอดชีวิต ผลิใบออกผลผลิตใหม่
9 พ.ค. 66 – จากสภาพอากาศร้อนจัดนานนับเดือน กระทบต่อต้นลิ้นจี่ที่ปีนี้สัญญาณดีติดผลดกจัด ส่งผลให้ใบเหี่ยวเฉา ต้นลิ้นจี่ไม่สามารถสังเคราะห์แสงหาอาหารมาเลี้ยงลูกบนต้นได้ ทำให้ลิ้นจี่ยืนต้นตายจำนวนมาก
ในจำนวนนี้มีสวน นายบุญช่วย สุขวิจิตร์ อายุ 80 ปี ซึ่งปลูกต้นลิ้นจี่ 35 ต้น ในเนื้อที่ 5 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 1 ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ริมถนนผลไม้ ทางเข้าวัดอินทาราม ที่มีต้นลิ้นจี่อายุกว่า 30 ปี รวม 11 ต้น มีลูกดกเต็มต้น แห้งเหี่ยว เป็นสีน้ำตาล สร้างความเสียหายครึ่งสวน ประมาณ 1,500 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าของสวนลิ้นจี่แห่งนี้หวั่นเกรงว่า ลิ้นจี่จะไม่รอดยืนต้นตาย
นายบรรจงศิลป์ วุฒิอุทัย เกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางไปเยี่ยม นายบุญช่วย ที่บ้านพัก ก่อนจะลงพื้นที่ติดตามแปลงลิ้นจี่นายบุญช่วย พร้อมให้คำแนะนำในการทำสาว หรือการตัดแต่งต้นลิ้นจี่ใหม่หมด กำชับให้รดนำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลิ้นจี่แตกใบใหม่ เหมือนเริ่มเป็นสาวใหม่ๆ
นายบรรจงศิลป์ กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดทราบข่าว ว่าสวนลิ้นจี่ลุงบุญช่วยได้รับผลกระทบจากความร้อนจัดนานเป็นเดือน ประกอบกับปีนี้ลิ้นจี่ออกดอกมาก ทำให้ลิ้นจี่ที่มีลูกดกมากไม่สามารถหาอาหารมาเลี้ยงลูกที่มากได้ จึงทนไม่ไหว ใบเริ่มแห้ง ลำต้นเริ่มแห้ง พร้อมยืนต้นตาย
จึงมอบให้เจ้าหน้าที่มาทำสาวให้ต้นลิ้นจี่ในสวนลุงบุญช่วย ซึ่งอายุกว่า 50 ปี โดยการตัดแต่งกิ่ง และรดน้ำให้ชุ่มโคนต้น เพื่อให้รากได้งอกใหม่ สามารถดูดอาการไปเลี้ยงต้นใหม่ ใส่ปุ๋ยคอกมูลวัว เพื่อต้นแข็งแรงแตกยอดใหม่ เป็นสาวรุ่นๆ อีกครั้ง