รู้จัก "แม่บีม ปูนาฟ้าใส" คู่กรณีจั๊กกะบุ๋ม กว่าจะเป็นธุรกิจอ่องมันปู เคยเป็นข่าวดัง 6 ปีก่อน

Home » รู้จัก "แม่บีม ปูนาฟ้าใส" คู่กรณีจั๊กกะบุ๋ม กว่าจะเป็นธุรกิจอ่องมันปู เคยเป็นข่าวดัง 6 ปีก่อน

รู้จัก แม่บีม ปูนาฟ้าใส เจ้าหนี้คู่กรณีตลกจั๊กกะบุ๋ม จากแม่บ้านสู่ธุรกิจขายปูนา เคยดราม่าเป็นข่าวดังเมื่อ 6 ปีก่อน

จากดราม่า เจ้าหนี้ขึ้นป้ายทวงหนี้ตลกชื่อดัง จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ขอให้เมตตาคืนเงิน 284,400 บาท เพราะเป็นเงินที่ต่อลมหายใจอีก 4 ชีวิต ขณะที่ จั๊กกะบุ๋มได้เดินทางไป สน.เพื่อลงบันทึกประจำวัน ยืนยันไม่หนี แต่ไม่รู้ยอดหนี้จำนวนเท่านี้จริงหรือไม่ จากนั้นทั้งคู่ได้ไปเผชิญหน้ากันในรายการ “โหนกระแส” จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์

สำหรับเจ้าหนี้คู่กรณีก็คือ แม่บีม รชต คำรอด อายุ 51 ปี หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ แม่ปูนา หลังออกโหนกระแสทำให้หลายคนทั้งเห็นใจและสงสาร ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ซึ่งกว่าที่จะมาทำธุรกิจปูนา แม่บีมก็ฝ่าดราม่าจนเป็นข่าวมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน

จุดเริ่มต้น “ปูนาฟ้าใส”

แม่บีม รชต คำรอด อดีตเป็นแม่บ้านและรับจ้างเลี้ยงเด็ก ก่อนผันตัวมาทำธุรกิจขายปูนา จุดเริ่มต้นคือการเป็นคนเหนือ ชอบกินอ่องปูแต่ในกรุงเทพหากินยาก ทำให้สนใจเรื่องการเลี้ยงปูนา จนมาถึงช่วงโควิดที่ต้องอยู่แต่บ้านก็เลยศึกษาเยอะขึ้น ก่อนตัดสินใจไปหาฟาร์มใหญ่ เพื่อไปซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาเลี้ยงที่บ้าน ตอนแรกเลี้ยงในกระชังเล็ก ๆ ก่อน พอมันรอดก็ขยับมาเป็นบ่อปูน เมื่อขยายพันธุ์ได้ก็เอามาลองทํากินในบ้าน ลูก ๆ ชิมแล้วอร่อย ก็เริ่มเอาให้เพื่อนชิม และเริ่มทําขายในหมู่บ้าน เริ่มได้รับเสียงตอบรับ มีการบอกต่อในโซเชียล จึงเริ่มขายตามกลุ่มอาหารในย่านพระราม 2 และขยับขยายเรื่อยมา มีการออกบูธตามสถานที่ต่างๆ ออกรายการโทรทัศน์ ไปจนถึงสามารถทำ OEM หรือเป็นโรงงานที่ผลิตสินค้าให้คนที่อยากนำไปสร้างแบรนด์เอง 

แม่บีมเคยตกเป็นข่าวดัง

กว่าจะมาเป็นเจ้าของธุรกิจในปัจจุบัน แม่บีมเคยตกเป็นข่าวดังเมื่อ 6 ปี ก่อน จากการรับเลี้ยงเด็กหารายได้เสริมที่บ้าน

  • มกราคม 2561 แม่บีม ร้องเรียนผ่านรายการคลายทุกข์ชาวบ้าน เมื่อเดือนธันวาคม 2560 มีเด็กหญิงอายุ 8 เดือน ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไว้หลังนำมาจ้างเลี้ยง แล้วหนีหายไปไม่สามารถติดต่อได้ หลังมีข่าวออกไปทำให้ น้องต้องไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์ แต่แม่บีมอยากเลี้ยงน้องเองและรับเป็นบุตรบุญธรรม จึงอยากให้แม่แท้ๆ มาจัดการเรื่องลูกให้ถูกต้องกฎหมาย
  • กรกฎาคม 2561 แม่บีม ร้องเรียนว่า ลูกชายวัย 12 ขวบ (ในขณะนั้น) เป็นนักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนกีฬาสังกัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ อยู่หอพักประจำโรงเรียน มีรอยหยิกที่แขนและอวัยวะเพศเขียวช้ำ ก่อนทราบความจริงว่าลูกชายถูกรุ่นพี่ทำร้าย

สรุปดราม่าจั๊กกะบุ๋ม

แม่บีมได้มีโอกาสเจอจั๊กกะบุ๋มในงานอีเวนต์หนึ่งที่เปิดขายของ จากนั้นแม่ก็เห็นจั๊กกะบุ๋มโพสต์เฟชบุ๊กว่ามีปัญหาเรื่องเงิน จึงทักไปหาถามเขาว่าสนใจจะขายปูดองกับอ่องปูไหม จั๊กกะบุ๋มไปไลฟ์สดขาย ได้ลูกค้าส่งมา เดี๋ยวแม่จะเป็นคนส่งให้ ต่อมาตกลงทำธุรกิจร่วมกัน โดยลักษณะการขายจะแบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ

1. ขายแบบออนไลน์ ได้ลูกค้า ก็จะส่งรายชื่อให้แม่บีม แม่บีมเป็นคนจัดส่งให้

2. ขายแบบอีเวนต์ ทางแม่บีมจะจัดส่งสินค้าให้

แต่ตลอดระยะเวลาที่ส่งสินค้าให้ ทางแม่บีมไม่ได้เงินเลยสักบาท ตลกดังผลัดวันที่จะให้เงินไปเรื่อย ๆ อ้างว่า แม่บีมบอกว่าขายของได้ ก็ให้เอาเงินที่ขายไปใช้หนี้เลย แต่แม่บีมยืนยันไม่ได้พูดแบบนั้น พร้อมแนบหลักฐาน คุยกันว่าถ้าขายได้ให้แบ่งเอากำไรไปใช้หนี้ แล้วเอาทุนมาต่อ

ทางจั๊กกะบุ๋มบอกว่า บางครั้งมันก็ขายของไม่ได้เลย ซึ่งทนายบอกว่าย้อนแย้ง ขายไม่ได้ แต่ก็ยังสั่งให้ผลิตเหมือนเดิม นอกจากนี้เงินไม่พอใช้ ก็ไปยืมแม่ 10,000 บาท ซึ่งแม่ก็ให้ยืม

ในรายการ จั๊กกะบุ๋ม พยายามเล่าย้อนเหตุการณ์ความเดือดร้อนของตัวเอง ที่ถูกโกงธุรกิจจนสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องขายของหาเงินมาใช้หนี้ เป็นหนี้เป็นสินท่วมตัว ต้องส่งหนี้รายวันถึงวันละ 4 หมื่นบาท ทำให้เป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาเราขายของได้ถึงไม่มีเงินคืนให้แม่บีม ซึ่งปัญหานี้ตนได้บอกแม่บีมไปตั้งแต่วันแรกที่เขาเสนอเอาของมาให้ขายแล้ว ว่าไม่มีทุนเลย ซึ่งก็เข้าใจว่าเขาตั้งใจมาช่วยเรา ถ้าแม่ไม่รับรู้ ผมจะกล้าเอาของเขามาขาย เพื่อหาเงินมาประทังชีวิตได้ยังไง จั๊กกะบุ๋มบอกว่า ถ้าแม่ไม่รับรู้ ไม่ยินยอม ตนจะกล้าเอาเงินที่ทำมาหาได้ไปส่งเจ้าหนี้รายวันทั้งหมดได้อย่างไร

แต่แม่ปูนายืนยันว่า ไม่ได้ยินยอมและ ทวงเงินมาตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา ยอดหนี้เขาท่วมไปหลักแสนแล้ว ทวงเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้สักบาท สิ่งที่แม่ปูนาอยากจะถามก็คือ ทำไมเขาไม่ลำดับความสำคัญว่าต้องบริหารเงินอย่างไร เอาเงินไปใช้หนี้ก็เข้าใจได้ แต่เขาก็ต้องหักทุนมาให้เราไปต่อยอดทำของมาขายใหม่ด้วย

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ