กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้ง ถ้าพูดถึงมือถือระดับ Flagship Killer มันก็จะมีหลากหลายรุ่นที่ทำได้ดี เพราะสเปกและข้าวของที่ให้มาดีจนรุ่นเรือธงต้องมองเลย เช่น POCO X3 GT แม้ว่าจะไม่ได้ประกาศว่ามันมันคือ Flagship Killer แต่มันก็มีดีและน่าสนใจพอตัวเลยครับ มาดูกันว่า มันจะทำได้ดีแค่ไหนกับการทดลองใช้ครั้งนี้ มาเริ่มกันเลย

แกะกล่อง POCO X3 GT ประกอบด้วย

• ตัวเครื่อง POCO X3 GT
• ปลั๊กชาร์จไฟ Fast Charger กำลัง 67W
• สายชาร์จไฟ USB-C To USB-A
• เคสใส่เคลือบสายป้องกันแบคทีเรีย
• ที่จิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
• ที่แปลงหูฟัง
• คู่มือ / ใบรับประกัน

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ POCO X3 GT

เริ่มต้นกับด้านหน้าเป็นแบบกล้องตรงกลางเป็นแบบ Dots Display ขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.6 นิ้ว พร้อมกับ Panel แบบ IPS LCD และมีสีสันของหน้าจอถือว่าสดใสมากและความละเอียดระดับ Full HD

ส่วนบนจะมาพร้อมกับลำโพงสำหรับฟังสนทนา, มีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ส่วนติ่งของกล้องสามารถกดปิดได้โดยการเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > การแจ้งเตือนและศูนย์ควบคุม (Notification & Control Center) > แถบสถานะ > ซ่อนรอยบาก

ส่วนล่างจะเป็นปุ่มควบคุมของระบบ Android เบื้องต้นจะเป็นค่า การนำทางแบบปุ่ม แต่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Home Screen (หน้าจอหลัก) > Navigation การนำทาง  สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ 

• ปุ่ม
• การปัดด้วยท่าทาง
• นอกจากนี้ยังมีการทำปุ่มลัดและการปิดใช้งานปุ่มลัดอัตโนมัติอีกด้วย

รอบตัวเครื่องจะเป็นเฟรมโลหะที่ไม่สะท้อนเงาออกมา และมีช่องใส่ซิมการ์ด แบบ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่องรองรับ Dual SIM

ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่ม Power ไว้สำหรับเปิด หรือสำหรับพักเครื่อง และมีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้

ส่วนบนจะมีลำโพงตัวที่ 2 พร้อมกับ IR Blaster สำหรับสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าและมีไมโครโฟน พร้อมกับลำโพงขนาดใหญ่เอาเรื่องเหมือนกันทำให้เสียงที่ออกมาถือว่ากำลังดี

ใต้เครื่องจะมาพร้อมกับช่องเสียบ USB-C, ไมโครโฟน, และ ลำโพงตัวเครื่องมาให้

พลิกมาด้านหลัง สำหรับสีที่ได้รับมาทดลองใช้เป็นสี Stargaze Black จะพิเศษตรงที่ด้านล่างจะมีประกายเหมือนดวงดาว โดยมีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวและมีโลโก้ POCO แม้จะเล็กแต่ว่าดูดีอยู่ครับ

ภาพรวมการออกแบบ

ดีไซน์จับได้กระชับมือถือ และน้ำหนักของเครื่องไม่ได้เบาและหนักเกินไป อยู่ที่ 193 กรัมเท่านั้น ภาพรวมการออกแบบถือว่าดูดีไม่น้อยเลยครับ อย่างไรก็ตามสีสันของด้านหลังรอบนี้มีให้เลือกครบ ประกอบด้วย Stargaze Black, Wave Blue, Cloud White

เปิดเครื่องลองใช้งาน POCO X3 GT

สเปกของ POCO X3 GT

• สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) 163.3 x 75.9 x 8.9 มม.   
• น้ำหนัก: 193 กรัม   
• การป้องกันน้ำและฝุ่น :ไม่ได้ระบุ  

• หน้าจอ: IPS LCD ขนาด  6.6 นิ้ว ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล Refresh Rate 120Hz 
• ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1100 5G Octa-core | GPU Mali-G77 MC9  
• แรม : 8 GB   
• ความจำภายใน : 256GB  
• ความจำภายนอก :  ไม่รองรับ

• การเชื่อมต่อไร้สาย : 5G SA/NSA, 4G LTE, WiFi 802.11 B/G/N/AC/6, Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS   
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 + MIUI 12.5
• ระบบความปลอดภัย   
• ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง  
• ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า   

• กล้องหลัง 3 ตัว :   
• กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (f/1.7) PDAF   
• กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Macro Lens) 
• กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (Ultra Wide) 
• LED Flash 
• รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS

• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล 
• ลำโพงของเครื่อง : Dual Stereo ปรับจูนโดย JBL
• แบตเตอรี : 5000 mAh + Fast Charge 67W 
• ช่องเสียบ ช่องเสียบ USB-C 
• สี : Stargaze Black, Wave Blue, Cloud White

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ / ลองเล่นเกม

การทดสอบประสิทธิภาพของ AnTuTu = 572,697

การทดสอบประสิทธิภาพของ Geekbench 5 = 751 คะแนน (Single Core) | 2,924 คะแนน (Multi Core)

จากคะแนนประสิทธิภาพของ POCO X3 GT เรียกได้ว่าสูงพอสมควรเมื่อดูจากขุมพลังแรงพอสมควร และนอกจากนี้ในเรื่องของการเล่นเกมจะมีฟีเจอร์ Game Turbo ทำให้ปิดการรบกวนต่างๆ, บันทึกหน้าจอ, ถ่ายวิดีโอต่างๆ  เป็นต้น แต่ภาพที่ออกมาถือว่าลื่นไหลและกดปุ่มเล่นได้ดีครับ แต่เรื่องความร้อนอาจจะสูงไปหน่อย

การเชื่อมต่อไร้สาย / ระบบนำทาง

การเชื่อมต่อของ POCO X3 GT มาครบเครื่องไม่ว่าจะเป็น A-GPS, GPS, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 ส่วนการเชื่อมต่อ 5G ของมือถือรุ่นนี้รองรับทั้ง 2 SIM เลยครับ

การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง

หน้าจอแม้ว่าจะเป็นแบบ IPS LCD ก็จริงแต่ว่ามีหน้าจอมีค่า Refresh Rate 120 Hz และสามารถปรับรูปแบบของสีหน้าจอได้หลากหลายผ่าน Setting

ส่วนระบบเสียงนั้นมีการปรับคุณภาพได้เยอะและมีเทคโนโลยี Dolby ATMOS และมีการปรับตามรูปแบบหูฟังและ Equalizer มาให้ครบ คุณภาพเสียงปรับจูนโดย JBL ครับ

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ระบบความปลอดภัย

POCO X3 GT มาพร้อมกับ Android ครอบทับภายในการควบคุมของ MIUI 12.5 แต่มีความเป็น POCO Launcher จะมีส่วนของ Apps แยกออกมาหรือเรียกว่า Apps Dawer จุดเด่นคือในเวอร์ชั่นนี้จะมีน้ำหนักเบากว่าและทำให้โหมดได้เร็วมากขึ้น เพราะโปรแกรมรบกวนน้อยลงกว่าเดิม และยังสามารถแบ่ง Multi Tasking หรือการทำหน้าจอ 2 หน้าจอได้ดีเหมือนเดิม

ลูกเล่นครบ ยังเน้นเรื่องของการใช้งานจริงเช่น เครื่องอัดเสียง, เครื่องอัดภาพหน้าจอ, Mi Remote ไว้สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องคิดเลข และ Application ของ Google หากไม่พอ สามารถดาวน์โหลดเพิ่มด้วย Google Play Store

ระบบความปลอดภัยของเครื่อง รุ่นนี้มีให้เลือกใช้แค่ระบบสแกนใบหน้า และสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power ทางด้านข้างขวา

เปิดกล้องลองถ่ายภาพของ POCO X3 GT ประกอบด้วย

• กล้องหลัง 3 ตัว :   
• กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (f/1.7) PDAF   
• กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Macro Lens) 
• กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (Ultra Wide) 
• LED Flash 
• รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS

• กล้องหน้า: 16 ล้านพิกเซล 

ฟีเจอร์ของกล้อง

หน้าตาเมนูกล้องยังไม่เหมือนกับ Xiaomi และ POCO ทั่วไป แต่ลูกเล่นของกล้องที่มาครบเครื่องไม่ว่าจะเป็น โหมด โปรที่สามารถตั้งให้บันทึกเป็นแบบ RAW File และยังมีฟิลเตอร์เยอะมาก ลูกเล่นต่างๆ มีให้ครบและยังถ่ายภาพแบบโคลนได้และมีกล้องคู่ มาให้ด้วย

ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้นรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30 FPS และยังมีฟีเจอร์ครบทั้งการถ่ายแบบ Timelapse และ Slowmotion ได้ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก POCO X3 Pro

ภาพแสงปกติ / กลางวัน

โหมดปกติ
Night Mode

ภาพแสงน้อย / กลางคืน

ภาพรูปแบบอื่น

ผลงานการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p แบบ 30 FPS ปรับฟีเจอร์ละลายหลัง, ฟีลเตอร์และรูปแบบต่างๆ ได้ครบจนเรียกได้ว่าเน้นกล้องอยู่บ้าง

แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ

สำหรับแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh กับมือถือรุ่นนี้ในการทดสอบแบตเตอรี่พบว่าจะใช้งานได้เต็มที่สุด 15:45 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานจริงขอแบ่งเป็นแบบถ้าใช้งานทั่วไปทั้งวันเอาอยู่และเกินมาอีกนิด แต่ถ้ามีการเล่นเกม หรือลืมปิดเกมเมื่อไหร่จะใช้งานได้สั้นทันที แต่โหมดในการดูแลแบตเตอรี่พูดเลยว่า เยอะทั้งรูปแบบการจัดการและตัวควบคุมต่างๆ ก็มีให้ครบครัน

ส่วนระบบชาร์จไฟของ POCO X3 GT มาแรงแซงทางโค้ง เพราะรองรับกำลัง 67W โดยมีที่ชาร์จติดมาให้ในกล่องทำให้สามารถชาร์จไฟได้เร็ว และตัวที่ชาร์จนี้เป็นแบบ Power Delivery ยังสามารถชาร์จไฟกับอุปกรณ์อื่นๆ รวมไปถึง Notebook ได้ด้วยครับ

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน POCO X3 GT รุ่นใหม่ล่าสุดสักระยะเวลาหนึ่ง

POCO X3 GT จัดว่าเป็นมือถือร่างบางที่ให้สเปกเน้นเล่นเกมเพราะขุมพลัง Dimensity 1100 ช่วยให้การประมวลผลเร็วประกอบกับ MIUI 12.5 รุ่นล่าสุดที่ส่งผลให้เกิดการลื่นไหลอยู่ก็ถือว่าทำได้ดี แม้เรื่องกล้องจะดูธรรมดาไปนิดก็ตาม แต่เรื่องที่มือถือตัวนี้ให้คุณได้แน่นอนคือ ชาร์จไฟเร็วมากครับ แต่ก็ใช้ฟังเร็วเหมือนกัน ดังนั้นถ้าเล่นเกมเยอะอาจจะต้องให้เครื่องพักบ้างก็จะดี แม้จะออกแบบให้ระบบระบายความร้อนอย่างดี

ส่วนราคานั้นถือว่าถูกเพราะเปิดตัวที่ 9,999 บาท โดยรุ่นความจุเดียวคือ RAM 8GB / ROM 256GB เท่านั้น สุดท้ายนี่ก็เป็นอีกทางเลือกของคนที่อยากได้มือถือรุ่นใหม่ที่เน้นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ และเล่นเกมได้ดีอีกตัวหนึ่ง และดูหนังเสียงดังดีอีกด้วยครับ

จุดเด่น

• ตัวเครื่องเพรียวบางสวย
• สเปกเหมาะกับการเล่นเกมมากพอตัว
• เสียงลำโพงดังมาก
• ได้ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด และอัปเกรดต่อได้
• รองรับ 5G แบบ Dual SIM
• ความจำภายในเยอะมาก
• ราคาถือว่าถูกกว่าใคร

ข้อสังเกต

• ความร้อนหากเล่นเกมนานๆ จะร้อนพอสมควร
• แบตเตอรี่หากใช้งานเยอะค่อนข้างหมดไว