กรมราชทัณฑ์ ใช้แรงงานนักโทษเด็ดขาด ขุดลอกท่อระบายน้ำ ช่วยงานสาธารณะ ชี้ไม่ถือเป็นค่าจ้างแต่เป็นรางวัลตอบแทน รวมถึงได้ลดวันต้องโทษ
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากที่กรมราชทัณฑ์ได้รับนโยบายจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในการออกทำงานสาธารณะเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ ด้วยการใช้แรงงานนักโทษเด็ดขาดขุดลอกท่อระบายน้ำ เพื่อช่วยแบ่งเบาและแก้ปัญหาการจัดการระบบระบายน้ำในสถานที่ต่าง ๆ นั้น
ปัจจุบันหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำคลี่คลายลง กรมราชทัณฑ์ ได้เร่งวางแผนและดำเนินการเกี่ยวกับภารกิจการจ่ายนักโทษเด็ดขาดออกทำงานสาธารณะ และงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ ซึ่งงานขุดลอกท่อระบายน้ำจัดเป็นการทำงานสาธารณะภายใต้พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 48
นับเป็นกระบวนการสำคัญในการพัฒนาพฤตินิสัยผ่านการทำงานบริการสังคม การพัฒนานักโทษเด็ดขาดให้รู้จักการอุทิศตนในการทำประโยชน์เพื่อสังคมนั้น จัดเป็นแนวคิดการพัฒนาพฤตินิสัยที่มุ่งเน้นให้นักโทษเด็ดขาดได้มีโอกาสในการทำความดีเพื่อสังคม แม้ในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 50 ระบุว่า ผู้ต้องขังไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างจากการงานที่ทำ
แต่อาจได้รับเงินรางวัลตอบแทนจากการงานนั้นได้ เนื่องจากการทำงานของนักโทษเด็ดขาดภายใต้ภารกิจของกรมราชทัณฑ์ถือเป็นการพัฒนาพฤตินิสัยในรูปแบบของการทำงาน ซึ่งการทำงานย่อมได้รับการตอบแทนเหมือนกับประชาชนทั่วไป
ในมิติด้านเงินรางวัลตอบแทน ตามกฎกระทรวงการคำนวณรายได้เป็นราคาเงินและการจ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้ต้องขังซึ่งการงานที่ได้ทำนั้นก่อให้เกิดรายได้ คำนวณเป็นราคาเงินได้ พ.ศ.2563 ระบุให้จ่ายเงินรางวัลในสัดส่วนร้อยละ 70 ของกำไรทั้งหมดแก่นักโทษเด็ดขาดสำหรับส่วนที่เหลือกำหนดให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
สำหรับมิติด้านการบริหารโทษ นักโทษเด็ดขาดที่ออกทำงานสาธารณะหรืองานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำจะได้รับวันลดวันต้องโทษจำคุกจากการทำงานนั้น เช่น นักโทษเด็ดขาดออกทำงาน 5 วัน จะได้รับวันลดวันต้องโทษจำคุกลดลงจากกำหนดโทษ 5 วัน เป็นต้น
ดังนั้น นักโทษเด็ดขาดที่ออกทำงานขุดลอกท่อระบายน้ำ นอกจากจะได้รับเงินรางวัลตอบแทนแล้ว ยังได้รับวันลดวันต้องโทษจำคุกที่ทำให้พ้นโทษได้รวดเร็วขึ้น ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่นักโทษเด็ดขาด และมีนักโทษเด็ดขาดจำนวนมากที่มีความเต็มใจและประสงค์ออกทำงานสาธารณะดังกล่าว
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ยังมีกลไกการสร้างสวัสดิภาพจากการทำงานของนักโทษเด็ดขาดภายใต้กฎกระทรวงการรับเงินทำขวัญของผู้ต้องขัง ซึ่งได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือตาย เนื่องจากการทำงาน พ.ศ.2563
ซึ่งนักโทษเด็ดขาดที่ประสบเหตุจากการทำงานจะได้รับเงินค่าทำขวัญตั้งแต่ 10,000 ถึง 120,000 บาท เป็นการแสดงให้เห็นว่า กรมราชทัณฑ์มีความใส่ใจต่อการทำงานของนักโทษเด็ดขาดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การกำหนดมาตรการความปลอดภัยในการทำงาน ระบบเงินรางวัลที่เหมาะสมต่อการทำงานไปจนถึงสวัสดิภาพจากการทำงานที่สอดคล้องกับการจ้างแรงงานทั่วไป