มิย่า ยกให้ อชิ เป็นคนสนิท แม่ลั่น! ทำไมจะไม่ห่วงลูกสาว ยุคนี้แล้ว สแกนอย่างดี

Home » มิย่า ยกให้ อชิ เป็นคนสนิท แม่ลั่น! ทำไมจะไม่ห่วงลูกสาว ยุคนี้แล้ว สแกนอย่างดี


มิย่า ยกให้ อชิ เป็นคนสนิท แม่ลั่น! ทำไมจะไม่ห่วงลูกสาว ยุคนี้แล้ว สแกนอย่างดี

มิย่า ยกให้ อชิ เป็นคนสนิท แม่ตอบคำถามชาวเน็ต ทำไมจะไม่ห่วงลูกสาว ยุคนี้แล้ว สแกนอย่างดี

ถูกจับตามอง ลูกของ 2 พระเอกดังกำลังปลูกต้นรักกันหรือเปล่า หลังช่วงส่งท้ายปีมีภาพร่วมเฟรมกันสองครอบครัว ด้วยความสนิทชิดเชื้อ สำหรับ มิย่า พิชชา ลูกสาวคนกลางของดาราหนุ่ม พีท ทองเจือ – เจ็ง วิไลลักษณ์ และ อชิ อชิรวัตต์ ลูกชายของดาราหนุ่ม ฟลุค เกริกพล – โบ ชญาดา กับโมเมนต์คืนวันปีใหม่ที่แฟนคลับเห็นแล้ว เชียร์กันไม่หยุด

ล่าสุด (14ม.ค.) น้องมิย่า พร้อมคุณพ่อคุณแม่ พีท ทองเจือ-เจ็ง วิไลลักษณ์ มาร่วมงานประกาศรางวัล Thailand Kids Awards 2023 ครั้งที่ 4 ที่ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ครอบครัวที่เด็กๆ จะรู้จักกันตั้งแต่วัยเรียน ส่วนสถานะ ยกให้เป็นคนสนิท

ความสัมพันธ์ของมิย่ากับอชิ? พีท : “เป็นเรื่องของวัยรุ่น ถ้าพูดแบบบ้านๆ โปรไฟล์ก็เหมาะสมกันทั้งคู่ เป็นเพื่อนกัน มันยังไม่มีบทสรุปหรอก หวังว่าทุกอย่างมันจะราบรื่นไปเรื่อยๆ ถ้ามีอุปสรรคก็ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตกันทั้งสองคน เจอกันทั้งพ่อฟลุค-แม่โบ ครอบครัวก็ทานข้าว แฮงเอาต์ด้วยกัน ครอบครัวค่อนข้างจะคุ้นกัน ไม่ใช่คนแปลกหน้า จริงๆ แล้วน้องเขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เจอกันแทบจะวันเว้นวันอยู่แล้ว”

สรุปสถานะของเราเป็นอย่างไร? น้องมิย่า :เป็นคนสนิทกันค่ะ เป็นคนคุยกัน ถามว่ากดดันไหมที่มีคนจับตาความสัมพันธ์ ก็เฉยๆ เวลาไปข้างนอกก็มีคนรู้จักอยู่แล้ว คนก็อาจจะจับตามองเยอะขึ้น ก็โอเค เรายอมรับว่าเราเป็นคนสาธารณะก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ตกใจ อชิเขาอาจจะไม่ชินเท่าเรา ด้วยความที่เราออกงานเจอคนเยอะกว่า แต่อชิเขาไม่ค่อยได้เจอคนเยอะ เขาอาจจะรู้สึกเดี๋ยวคนจะเห็นรึเปล่า บอกเขาว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็โอเค

เจ็ง : “เราไม่รู้ว่าสถานะของเด็กๆ จะต้องใช้คำว่าอะไร แต่ตัวเจ็งจะรู้ทุกเรื่องของเด็กๆ เราเห็นเด็กกลุ่มนี้กันมานานแล้ว เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน มีอะไรเขาจะเล่าให้ฟัง สมมติไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ต้องถามเลย เขาจะเล่าก่อนเลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตเขาบ้าง เราจะรู้เรื่องทุกอย่างอยู่แล้ว อยู่ในสายตาพ่อแม่ เด็กๆ น่ารักกัน เป็นเด็กดีกันทุกคน เราเลยไม่รู้สึกห่วงอะไร

เราเชื่อใจลูก เชื่อใจเพื่อนๆ ลูก ก็เลยไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง จะมีคำถามที่คนชอบถามกันว่าแล้วไม่หวงลูกสาวเหรอ ก็หวงนะ คำว่าหวงของเราเจ็งมองว่ามันไม่ใช่การห้าม คำว่าหวงคือการปล่อยให้ลูกทำอะไรตามอิสระตามความคิดเขา แต่ต้องอยู่ในกรอบ และขอบเขตที่ผู้ใหญ่รับรู้และเห็น ต้องไม่ได้ไปทำอะไรผิด ให้เราหวง เราห่วงในเรื่องแบบนี้มากกว่า

เรียกว่าก็ดูแลกันอย่างใกล้ชิด ถ้าพากันไปในทิศทางที่ดี ไม่มีอะไรเสียหาย ก็พร้อมสนับสนุน เราเคยเป็นเด็กวัยรุ่น เราก็เคยผ่านจุดนี้มา มันคือส่วนนึงของการใช้ชีวิตอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าลูกไม่ได้ปิดบัง ไปทำอะไรเสียหาย เราเป็นพ่อแม่ เราไม่ปิดกั้นอะไรอยู่แล้ว

อย่างทุกๆ ครั้งที่ลูกไปทานข้าว พ่อแม่รับรู้ ส่วนมากเจ็งจะเป็นคนไปส่งและไปรอรับ ลูกอาจจะนั่งอยู่ในร้าน แต่พ่อแม่นั่งรออยู่ในรถ ทุกอย่างอยู่ในสายตาตลอด ส่วนน้องๆ ก็จะช่วยคอยส่อง คอยมาบอกแม่ว่าคนนี้โอเค คนนี้ไม่โอเค เขาจะเป็นคนแอบมาบอก เป็นคนสแกน มีบอกพี่สาวด้วยว่าทำแบบนี้ไม่โอเคนะด้วย”

พ่อแม่โอเคไหม ลูกมีแฟน? พีท : “ชีวิตวัยรุ่น ยิ่งห้ามมันยิ่งจะแย่ไปกว่าเดิม คนรุ่นใหม่เราก็จะเลี้ยงลูกกันด้วยวิธีใหม่ๆ เราต้องรับรู้และยินดี ถ้าไม่มีอะไรเสียหายเราก็สนับสนุน มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาปฏิเสธ ไม่ใช่ยุคเก่าแล้วที่พ่อกับแม่ต้องเป็นเจ้าขุนมูลนาย บีบบังคับลูก ความรู้สึกอาจจะรู้สึกบ้าง แต่ในความเป็นจริงในปัจจุบันมันเป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กทุกคนต้องใช้ชีวิตและเรียนรู้ชีวิตของตัวเอง”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ