‘ฟลุ๊ค’ภูมิใจเป็นลูก‘สุเทพ สีใส’ หมดยุคบูลลี่-รู้สึกดีสังคมเปิดกว้าง

Home » ‘ฟลุ๊ค’ภูมิใจเป็นลูก‘สุเทพ สีใส’ หมดยุคบูลลี่-รู้สึกดีสังคมเปิดกว้าง



‘ฟลุ๊ค’ภูมิใจเป็นลูก‘สุเทพ สีใส’ – อีก 3 วันก็จะถึงวันพ่อ วันนี้โอกาสดี ได้ พูดคุยกับสาวสวยหน้าใส ‘น้องฟลุ๊ค’ ชัญญ์ณิฏฐ์ ศรีเหรานุกูล ลูกสาวสุดหวงของ ‘สุเทพ สีใส’ ตลกชื่อดังของเมืองไทย ที่มาเปิดใจถึงความผูกพันกับคุณพ่อ รวมถึงทัศนคติเรื่องการบูลลี่

คุณพ่อในจอกับนอกจอ มีลุกส์แตกต่างกันไหม?

ฟลุ๊ค – “เวลาอยู่บ้านเขาเป็นคนเงียบๆ นะ แต่ก็มีความเฮฮาอยู่ คืออาจจะไม่ได้พูดมากเหมือนเวลาอยู่บนเวทีหรือแสดง แต่ก็เฮฮา เป็นคนตลก และอบอุ่น แต่เวลามีอะไรเขาไม่ค่อยพูด อย่างสมมติถ้าเป็นเรื่องหนู เขาก็จะไปบอกแม่ (ป๊อบ ธณัฏฐ์ภรณ์) ให้แม่มาบอกหนู เขาคงกลัวหนูจะไม่เข้าใจหรือจะน้อยใจหรือเปล่าค่ะ”

ตอนนี้เรียนจบแล้ว?

ฟลุ๊ค – “ค่ะ จบภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ ตอนนี้ทำงานอยู่เป็นนักวิจัย วิจัยเกี่ยวกับโควิดนี่แหละค่ะ เป็นการวิจัยเหมือนตรวจคัดกรองด้วยเทคนิคแมสสเปกโตรเมตรี ใจจริงก็อยากเรียนต่อค่ะ ถ้ามีช่วงเวลาที่เหมาะสม แล้วเราโอเค ซึ่งความจริงคุณพ่อคุณแม่อยากให้เรียนต่ออยู่แล้ว แต่หนูยังไม่ได้ตัดสินใจ อยากลองค้นหาตัวเอง เพราะสายที่จบมามันประยุกต์ได้หลายทาง ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าจะลงไปเฉพาะทางสายไหน คงต้องทำงานรอดูไปอีก ให้เวลากับตัวเองว่าชอบตรงนี้จริงๆ ไหม เพราะการเรียนต่อ ป.โท หรือป.เอก ถ้าเรียนไปแล้วมันค่อนข้างหนัก ถ้ามันเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ ไม่แฮปปี้แล้ว หนูว่ามันไม่ค่อยคุ้มที่เราจะแลกสักเท่าไหร่”

ลูกสาวเรียนจบมีงานทำแล้ว พ่ออนุญาตให้มีความรักหรือยัง?

ฟลุ๊ค – “หนูคิดว่าเขาก็หวงนะคะ แต่คิดว่าเขาไม่ห้ามค่ะ แค่เรารู้ว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ถูก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ คือเขาก็ปล่อย แต่การปล่อยของเขาคือพยายามตบให้อยู่ในกรอบ คิดว่าถ้ามีเขาก็ไม่ว่าอะไรค่ะ”

ส่วนตัวตอนนี้หัวใจว่าง?

ฟลุ๊ค – “ว่างค่ะ จริงๆ ก็มีหนุ่มๆ เข้ามาบ้าง แต่แค่เข้ามาค่ะ หนูไม่ได้คุยต่อ ไม่ได้จริงจังค่ะ ส่วนสเป๊กชอบแบบไทยๆ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยมีสเป๊ก จะชอบคนที่ทัศนคติมากกว่าค่ะ”

ที่ผ่านมาคุณพ่อเคยพูดเรื่องยีน เรื่องรูปลักษณ์ หน้าตาไหม?

ฟลุ๊ค – “ไม่เคยนะคะ คุณพ่อไม่เคยพูดเลย ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ เหมือนเขาสอนเรามาตั้งแต่เด็กมากกว่า ซึ่งตัวเราไม่ได้คิดอะไร เราก็แค่รู้สึกว่านี่พ่อเรา นี่แม่เรา เราก็ภูมิใจของเราเนอะ เพราะพ่อก็เลี้ยงเรามา หาเงินส่งเสียเราตั้งแต่เล็ก เราก็มีความภูมิใจในครอบครัวเรามากค่ะ”

เวลาไปโรงเรียน มีความรู้สึกเขิน ไม่อยากไปโรงเรียนกับพ่อมีไหม?

ฟลุ๊ค – “ไม่เคยเลยนะคะ หนูคิดว่าตอนเด็กๆ หนูยังไม่ได้รับรู้โลกภายนอกอะไรเลย เราก็เป็นเด็กคนหนึ่ง เอาจริงๆ คนในวงการเขาก็คือมนุษย์ มีชีวิตปกติ ใช้ชีวิตปกติ เวลามีเรื่องอะไรเขาก็สั่งสอนลูกตามปกติ หนูก็ไม่ได้ไม่อยากให้พ่อไป คือหนูไม่ยอมไปโรงเรียนด้วยซ้ำ”

ในวัยเด็กเคยเจอเพื่อนบูลลี่ไหม?

ฟลุ๊ค – “ไม่ค่อยเจอคนที่บูลลี่จริงจัง เลยไม่ทราบว่าถ้ามีคนมาว่าจริงจัง หนูจะยังไง เพราะตัวเองก็เป็นสายไฟต์เหมือนกัน ก็คงไม่ยอมแหละค่ะ แต่ถ้าเป็นพูดเล่นๆ ก็มี ก็คือเพื่อน เพื่อนสนิทค่ะ หนูก็เข้าใจนะ คือเพื่อนเขาก็ พราวด์ด้วยว่าเขาเป็นเพื่อนเรา แล้วเราเป็นลูกดารานะ เขามีความใกล้ชิดเรา”

ถ้ามี เพื่อนก็ช่วยฟาดเลย?

ฟลุ๊ค – “ใช่ๆ เพื่อนหนูพร้อมซัพพอร์ตเสมอ”

พ่อกับแม่แอบห่วงความรู้สึกเราในเรื่องนี้ไหม?

ฟลุ๊ค – “ไม่ทราบว่าเขาเคยแอบห่วงไหม เขาไม่เคยพูดว่าเขาห่วงเรื่องนี้ แต่หนูคิดว่าใจจริงๆ เขาก็คงห่วงแหละ เพราะเขาเองก็ไม่ทราบว่าเวลาหนูไปโรงเรียน หรือหนูไปอยู่คนเดียวในสังคมภายนอก หนูจะเจออะไรบ้าง แต่ก็โชคดีที่หนูไม่ได้เจออะไร ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรค่ะ”

ดีใจไหมที่สังคมบูลลี่เริ่มหมดไป ใครๆ ก็ไม่ยอมรับคนที่มีทัศนคติแบบนี้?

ฟลุ๊ค – “ใช่ๆ หนูรู้สึกภูมิใจ คือพ่อจะเป็นอะไรหนูก็ภูมิใจหมดแหละ แล้วยิ่งเป็นดาราเป็นคนมีชื่อเสียง เหมือนเราจะรู้สึกดีทุกครั้งที่อาชีพเขาคือตลก เราจะรู้สึกดีทุกครั้งที่พ่อเราสามารถทำให้คนหัวเราะได้ เหมือนเขาสำเร็จในโลกอาชีพของเขา หนูว่าโอเคนะคะ ที่สังคมเปิดกว้างมากขึ้น เหมือนเจเนอเรชั่นใหม่ยอมรับในความแตกต่าง หรือในสิ่งที่คนแต่ละคนเป็นไม่เหมือนกันได้ เหมือนเป็นการให้เกียรติกันค่ะ”

“เราไม่ควรตัดสินคนอื่นด้วยไม้บรรทัดของตัวเราเองหนูคิดว่าเราควรจะมองโลกให้กว้างขึ้น โอเพ่นมายด์มากขึ้น ดีที่ตอนนี้สังคมเราเปลี่ยนไปมากขึ้นค่ะ”

สุชาวดี อภิสัมภินวงค์

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ