พ่อเลี้ยงโหด มีดปาดคอเมีย คิดสั้นหนีความผิดในห้องขัง ภรรยา รู้ข่าวไม่พูดอะไร แต่เสียดายเงินที่คนตายขโมยไป ด้านญาติไม่ติดใจเอาความ
กรณี น.ส.จิตติยา (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.4 บ้านหินกองใหญ่ ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง ให้ติดตามจับกุม นายวันนา (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.4 บ้านหินกองใหญ่ ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พ่อเลี้ยงซึ่งเป็นคนก่อเหตุ ใช้อาวุธมีดปาดคอนางตุ๋ม (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี จนบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่รพ.น้ำพอง เหตุเกิดคืนวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ทุ่งนาข้างวัดสีลาขันธ์บ้านหินกองใหญ่ ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จะจับกุมตัวนายวันนา ได้และนำตัวไปสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งนายวันนาก็ให้การรับสารภาพ ว่าปาดคอภรรยาจริง เพราะภรรยาดื่มสุรา เมาแล้วท้าทายให้ฆ่า จึงใช้มีดปาดคอภรรยาตัวเอง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 31 พ.ค.65 พ.ค.2565 พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ รับแจ้งเหตุผู้ต้องหาเสียชีวิตในห้องควบคุมของสภ.น้ำพอง เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา จึงเข้าตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน และแพทย์ รพ.น้ำพอง รวมถึงแจ้งญาติคนตายให้ทราบเรื่อง
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงห้องควบคุมผู้ต้องหา ชั้น 1 อาคารที่ทำการ สภ.น้ำพอง พบศพ นายวันนา ผู้ต้องหาที่ปาดคอภรรยาตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงนำร่างศพคนตายออกมาจากห้องควบคุม และนำส่งรพ.น้ำพอง เพื่อชันสูตร
“หลังจากที่นายวันนา ก่อเหตุปาดคอภรรยาตัวเอง ที่ทุ่งนาข้างวัดสีลาขันธ์ บ้านหนองกุงใหญ่ เหตุเกิดคืนวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งลูกเลี้ยงหรือลูกสาวคนเจ็บเข้าแจ้งความ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็รวบรวมหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนาสภ.น้ำพอง ก็ออกสืบสวนหาตัวนายวันนา จนพบตัวขณะขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนน จึงจับกุมตัวมาสอบสวน
จากการการสอบสวน นายวันนาก็รับสารภาพว่า ลงมือปาดคอเมียตัวเองจริง ซึ่งเมื่อชุดสืบสวนทำการสอบสวนแล้วก็นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย โดยนำตัวเข้าห้องควบคุมในเวลา 19.00 น.จากนั้นเวลา 20.00 น.ผู้ต้องหาก็รับประทานอาหาร เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ผู้ต้องหาก็เดินไปมาในห้องควบคุม ซึ่งพฤติกรรมต่างๆของผู้ต้องหานั้น มีเจ้าหน้าที่สิบเวรยาม ที่เข้าเวร ดูแลอยู่
เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ต้องหาก็เอาหมอนมาหนุนนอน เจ้าหน้าที่สิบเวรยามเห็นว่าผู้ต้องหาพักผ่อนจึงเดินออกไปเข้าห้องน้ำ ไม่นานก็กลับเข้ามาในห้องควบคุม เพื่อจะนำตัวผู้ต้องหาออกมาพิมพ์ลายนิ้วมือ ปรากฏว่าผู้ต้องหาคิดสั้นจนเสียชีวิตแล้ว สิบเวรยามจึงรีบแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบดังกล่าว
ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การบกพร่องของเจ้าหน้าที่ แต่เชื่อว่าผู้ต้องหาต้องการฆ่าตัวตายหนีความผิด และไม่ต้องการติดคุก ส่วนเหตุการณ์และรายละเอียดที่เกิดขึ้นในห้องควบคุมนั้น สภ.น้ำพองมีกล้องวงจรปิดในห้องควบคุมสองตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่นำตัวเข้าห้องควบคุม จนถึงช่วงเวลาที่คิดสั้น
ทราบว่าคนตายมีพี่น้อง 3 คน คนตายเป็นพี่ชายคนโต น้องชายทำงานที่จังหวัดภูเก็ต ส่วนน้องสาว ทำงานในพื้นที่อำเภอน้ำพอง ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาคิดสั้น จึงแจ้งให้น้องสาว ทราบเรื่อง และน้องสาวไม่ติดใจการตาย โดยบอกว่า พี่ชายเป็นคนขี้น้อยใจ และอยู่กินกับภรรยา คนที่ถูกปาดคอมานานหลายปีแล้ว และมีปัญหามาตลอด จนเกิดเหตุการณ์รุนแรงปาดคอภรรยาขึ้นและถูกจับดังกล่าว
อย่างไรก็ตามภายหลังผู้ต้องหาเสียชีวิตศพก็ถูกส่งไปที่รพ.น้ำพอง เพื่อตรจสภาพศพ และตรวจตามมาตรการโควิด หากไม่พบเชื้อโควิดก็จะถูกส่งไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จึงจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ขณะที่ หลานชายนางตุ๋ม อายุ 57 ปี ภรรยาคนตายที่ถูกปาดคอ กล่าวว่า ฝ่ายครอบครัวนางตุ๋ม ทราบเรื่องจากตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งว่า นายวันนา คิดสั้นในห้องขังแล้ว แต่ตำรวจก็ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าอย่างไรบ้าง เมื่อทราบเรื่องจึงได้ไปบอกกับนางตุ๋ม นางตุ๋มก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่พูดว่า เสียดายเงินที่ถูกคนตายขโมยไป และเมื่อนายวันนาตายแล้ว ครอบครัว ญาติพี่น้องก็ขออโหสิกรรมให้ ถือว่า จบสิ้นเวรกรรมต่อกัน จากนี้ก็จะไปรับศพคนตายมาบำเพ็ญกุศลที่วัดสีลาขันธ์ บ้านหนองกองใหญ่ ต่อไป