พ่อหวั่นใจ ลูกสาวสวยแถมเก่ง แต่นิสัยทำกลัวไม่ได้แต่งงาน แอบถ่ายภาพห้องนอนมาลงเน็ต ยินดีแถมเงินให้ลูกเขยเฉียดล้าน!

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 เว็บไซต์ Sohu รายงานเรื่องราวของครอบครัวธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่งในเมืองฉงชิ่ง ที่กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ หลังจากพ่อแอบถ่ายภาพห้องนอนของลูกสาว มาเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต

ผู้เป็นพ่อยังบรรยายพฤติกรรมของลูกสาว ซึ่งทำให้เขาทั้งรู้สึกภูมิใจและกังวลในเวลาเดียวกัน เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่กำลังจะขึ้นมหาวิทยาลัยปี 2 เนื่องจากในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เขาต้องอดทนกับพฤติกรรมต่างๆ ของลูกสาวอย่างเงียบๆ กระทั่งตอนนี้ล่วงเลยมาจนเปิดเทอมแล้ว และในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

ตามคำอธิบายของผู้เป็นพ่อ เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มีความซับซ้อน มีทั้งด้านสว่างและด้านที่ทำให้อดกังวลไม่ได้ ซึ่งหากจากมุมมองเชิงบวก เธอเติบโตขึ้นมาในมหานคร เป็นนักเรียนหัวกะทิมาตั้งแต่เด็ก และผลการเรียนก็ดีมากมาโดยตลอด รูปร่างสูงและหน้าตาดี

ความประทับใจแรกที่เธอมอบให้ใครๆ คือความเป็นสาวเมืองสมัยใหม่ทั่วไป เธอเป็นคนฉลาด พูดจาเฉียบคม และไม่เคยแพ้เมื่อโต้เถียงกับผู้อื่น นอกจากนี้ ลูกสาวของคุณพ่อยังมีพรสวรรค์ด้านการเขียนที่โดดเด่น ถึงขนาดเคยได้รับรางวัลอีกด้วย เมื่อเล่นเกมหมากรุก เธอเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมแพ้แม้จะเสียหมากไปหลายชิ้นก็ตาม

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ คำอธิบายต่างๆ นาๆ ทำให้ผู้คนสงสัยว่าคุณพ่ออวยลูกสาวเกินจริง และพยายามเน้นย้ำถึงความเป็นเลิศของลูกสาวเกินไปหรือไม่ ชาวเน็ตหลายคนอ่านแล้วถึงกับบอกตรงๆ ว่า “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!”

อย่างไรก็ดี ในขณะเดียวกันผู้เป็นพ่อก็ไม่ลืมที่จะอธิบายข้อบกพร่องบางประการของลูกสาวด้วย โดยเขาเล่าว่าชีวิตของลูกสาวหรูหราเกินไป และเธอไม่เคยเลือกใช้รถโดยสารหรือจักรยานในการเดินทางเลย ใช้แต่บริการแท็กซี่เท่านั้น เมื่ออยู่บ้านก็แทบไม่ได้ทำงานบ้าน แน่นอนว่าห้องของเธอก็ไม่ได้รับการดูแลให้เรียบร้อย ไม่ได้ทำความสะอาดเดือนแล้วเดือนเล่า

ด้านการสื่อสารของเธอกับครอบครัวก็มีจำกัดเช่นกัน นอกเหนือจากการขอเงินพ่อแม่ในบางครั้งแล้ว ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจคนอื่นๆ ในครอบครัวมากนัก แม้ว่าสมาชิกในครอบครัวเพิ่งจะพูดเพียงไม่กี่คำ เธอก็จะรู้สึกรำคาญ และบ่นเกี่ยวกับเรื่องราวตอนเด็ก เพราะเธอรู้สึกว่าครอบครัวนำความทรงจำเลวร้ายมากมายมาสู่เธอ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลูกสาวที่เป็นเช่นนี้ ผู้เป็นพ่อก็มีอารมณ์ที่ซับซ้อนมากเช่นกัน และพูดติดตลกว่า ลูกสาวของเขาเป็นอัจฉริยะหรือผู้แพ้กันแน่? เขาเริ่มกังวลเกี่ยวกับการแต่งงานในอนาคตของเธอ และรู้สึกว่าการค้นหาคนที่ใช่อาจเป็นเรื่องยาก เพราะคนอื่นๆ ไม่สามารถควบคุมเธอได้

ด้วยเหตุนี้ เขาถึงทิ้งท้ายบทความไว้ด้วยข้อเสนอที่จะมอบสินสอดมูลค่า 200,000 หยวน (ประมาณ 9.7 แสนบาท) ให้ลูกเขยในอนาคต ตราบใดที่มีคนเต็มใจที่จะแต่งงานกับลูกสาวของเขา

เมื่อบทความถูกเผยแพร่ลงออนไลน์ แน่นอนว่าคำพูดข้างต้นเรื่องสินสอดเป็นเพียงมุกตลก เพราะลูกสาวเป็นเพียงนักเรียนชั้นปีที่ 2 และอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเห็นตรงกันว่า รู้สึกได้ถึงความกังวลของคนเป็นพ่อจริงๆ ในขณะเดียวกัน พ่อแม่หลายคนที่ได้อ่านบทความนี้ก็บอกว่า ลูกของพวกเขาก็มีปัญหาคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะเด็กที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้

แต่บางคนคิดว่าพ่อกังวลเกินไป และความกังวลของเขานั้นเกินความจำเป็น เพราะเชื่อว่าแม้เด็กๆ สมัยนี้อาจจะขี้เกียจนิดหน่อยเรื่องงานบ้าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคต หลังจากพยายามทำงานหนักในสังคมไม่กี่ปี หรือสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง พวกเขาจะเติบโตและมีสติมากขึ้นอย่างแน่นอน

และเนื่องจากลูกสาวของพ่อคนนี้มีไอคิวสูงและสวยขนาดนี้ โอกาสในการพัฒนาในอนาคตของเธอจึงไม่เลวร้ายอย่างแน่นอน นอกจากนี้เรื่องงานบ้านก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ สมัยนี้สามารถจ้างแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็กมาแก้ปัญหาได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือลูกสาวของเขาเกิดมาจากพ่อแม่ที่มีไอคิวสูง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการศึกษาเลย

แต่ก็มีอีกเสียงหนึ่งที่เชื่อว่า เด็กพวกนี้ขี้เกียจและเห็นแก่ตัวจนเกินไป และยากสำหรับพวกเขาที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต เมื่อไปต้องย้ายไปอยู่บ้านสามีก็อาจถูกดูหมิ่น และเป็นเรื่องยากที่ให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้อื่นอย่างจริงใจ พ่อแม่ที่มีลูกชายบางคนถึงกับพูดอย่างไร้ความปรานีว่า ถึงแม้พวกเขาจะได้รับเงิน 1 ล้านหยวน ก็จะไม่ปล่อยให้ลูกหาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นเพื่อนแน่นอน

การร้องเรียนของคุณพ่อคนนี้ดึงดูดความสนใจของโซเชียลฯ และก่อให้เกิดข้อโต้แย้งมากมาย มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น บางคนเห็นด้วยกับความคิดเห็นของพ่อ ในขณะที่บางคนไม่เห็นด้วย แต่ไม่ว่าในกรณีใด เราทุกคนสามารถเห็นได้ว่าการศึกษาของครอบครัว และสภาพแวดล้อมของครอบครัว มีผลกระทบอย่างมากต่อเด็กคนหนึ่ง

 สุดท้ายนี้ ไม่ว่าลูกหลานของเราจะเป็นนักวิชาการชั้นนำ หรือเดินตามความฝันในเส้นทางที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่พวกเขาทุกคนก็ยีงสมควรได้รับการดูแล การสนับสนุน และกำลังใจจากครอบครัว ผู้ปกครองควรให้อิสระและความไว้วางใจแก่บุตรหลานอย่างเหมาะสม เพื่อกลายเป็นคนที่มีคุณค่าและมีความหมาย