พ่อสุดช้ำ ลูกชายแอบถอนเงินตอนป่วย เหลือแค่ 75 บาท อดีตเมียเผยเหตุผลที่ลูกทำ

Home » พ่อสุดช้ำ ลูกชายแอบถอนเงินตอนป่วย เหลือแค่ 75 บาท อดีตเมียเผยเหตุผลที่ลูกทำ

พ่อสุดช้ำลูกชายแท้ๆ แอบถอนเงินตอนนอนป่วยที่ รพ. เกือบเกลี้ยงบัญชีกว่า 8 หมื่นบาท เหลือแค่ 75 บาท ด้านอดีตเมียเผยลูกชายยอมรับถอนเงินพ่อจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.) นายสมพาร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาวตำบลหนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ อดีตพนักงานขับรถบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่าได้ถูกลูกชายแท้ๆ แอบถอนเงินประกันสังคมในบัญชีช่วงที่ตนเองล้มป่วยไปเกือบเกลี้ยงบัญชีกว่า 80,000 บาท เหลือติดไว้ให้บัญชีแค่ 75 บาท

โดยได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ละหานทราย เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ลูกชายก็รับปากจะทยอยผ่อนจ่ายคืนให้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เงินเลย เดือดร้อนมากไม่มีเงินใช้จ่ายร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรงไม่สามารถทำงานหนักได้ จึงได้ออกมาร้องผ่านสื่อให้ผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือด้วย

นายสมพาร เล่าให้ฟังว่า ตนเคยเป็นพนักงานขับรถที่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่เกิดล้มป่วยจึงได้ลาออกจากงาน แต่ส่งเงินประกันสังคมครบตามเงื่อนไขแล้ว พอไม่ได้ทำงานทางประกันสังคมก็แจ้งมาว่าตนได้รับเงินกรณีชราภาพจำนวน 8 หมื่นกว่าบาท โดยจะโอนเข้าบัญชีให้แต่ตนไม่มีบัญชี

กระทั่งเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายและภรรยาเก่าของตนที่เลิกรากันไปหลายปีแล้ว ได้พาไปเปิดบัญชีธนาคารที่อำเภอนางรอง ซึ่งลูกชายเป็นคนดำเนินการให้ตนแค่เซ็นชื่อเท่านั้น ตอนนั้นก็ยังถามลูกชายว่าได้ทำบัตร ATM หรือไม่ ซึ่งลูกชายก็บอกว่าไม่ได้ทำ แต่ตอนนั้นลูกชายยังไม่ให้สมุดบัญชีตนเองมา จากนั้นก็พากันเดินทางกลับ

ต่อมานั้นลูกชายก็เอาสมุดบัญชีมาให้ที่บ้านแล้วบอกว่าเงินเข้าแล้ว ตอนนั้นก็ไม่เอะใจหรือถามอะไร หลายวันผ่านไปตนก็นำสมุดไปถอนเงินที่ธนาคารสาขาอำเภอละหานทราย แต่ธนาคารแจ้งว่าเงินในบัญชีเหลือแค่ 75 บาทเท่านั้น

ตนก็ตกใจว่าทำไมมีแค่ 75 บาท จึงขอให้ทางธนาคารตรวจสอบให้ว่ามียอดเงินโอนเข้าหรือไม่ ทางธนาคารก็แจ้งว่ามียอดเงินโอนเข้ามาทั้งหมด 80,880 บาท วันที่ 17 เม.ย. และเงินก็ถูกถอนออกจากบัญชีในวันที่ 17 เม.ย. เช่นเดียวกัน ยอด 20,000 บาท 2 ครั้ง และ 40,000 บาท ทางบัตร ATM จึงเชื่อว่าลูกชายน่าจะแอบทำบัตร ATM แล้วถอนเงินออกจากบัญชีโดยที่ไม่บอกตนเอง

ตนจึงไปสอบถามลูกชายว่าได้ถอนเงินไปหรือไม่ ลูกชายก็ยอมรับว่าถอนไปจริง และจะทยอยเอาให้พ่อใช้เอง จึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพราะกลัวลูกชายจะไม่คืนเงินให้ ก็แจ้งความตั้งแต่เดือน เม.ย. แต่จนถึงขณะนี้ลูกก็ยังไม่เอาเงินมาให้คืน จึงตัดสินใจไปแจ้งตำรวจ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านอดีตภรรยา เพื่อจะไปสอบถามลูกชายของนายสมพาร แต่ไม่พบตัวลูกชาย พบเพียง นางฉันทนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี บอกว่า ตนกับสามีเลิกรากันมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังพูดคุยกันและลูกชายก็ยังดูแลพ่อลูก

ส่วนที่พาพ่อไปเปิดบัญชีเพื่อรับเงินจากประกันสังคม เพราะลูกชายมีรถยนต์จึงพาพ่อไป แต่พ่อเขาก็ทำเองทุกอย่างเงินโอนเข้าเขาก็บอกให้พ่อรู้

แต่ลูกชายก็ยอมรับว่าได้ถอนเงินของพ่อจริงแค่จะดูแลไว้ให้ เพราะพ่อก็มีภรรยาใหม่ แล้วจะทยอยเอาให้พ่อใช้ ไม่มีเจตนาจะเอาเงินของพ่อซึ่งก็ได้บอกพ่อแล้ว แต่พ่อไม่ยอมบอกว่าจะเอาเงินทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ลูกชายไปชลบุรีบอกว่ากลับมาจะไปเคลียร์กับพ่อเอง แต่ก็ไม่คิดว่าพ่อจะไปแจ้งตำรวจ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ