ยายร้องหลาน ม.5 ขี่จยย.ซ้อนเพื่อนไปร้านค้า ชนกระบะพ่อตาของตำรวจ ที่เมาแล้วขับขวางถนน ค้างค่ารักษาเป็นแสน แต่คนขับจ่ายเงินช่วยแค่ 200 บาท
วันที่ 21 เม.ย. 66 นางหนูแดง ขอมหงส์ อายุ 59 ปี ยายของนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ชาว อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ออกมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่หลานชาย ขี่รถจักรยานยนต์ ซ้อนเพื่อนรุ่นพี่ ออกไปร้านค้าในหมู่บ้านใกล้กัน เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา แต่ก่อนจะถึงร้านค้าในหมู่บ้านได้เฉี่ยวชนกับรถกระบะ ที่ดัดแปลงเป็นรถเพื่อการเกษตรไม่มีไฟหน้ารถ ทำให้เด็กมองไม่เห็น และคนขับมีอาการเมา ขับรถกินเลนขวางถนน จนเป็นเหตุให้หลานชาย และเพื่อนบาดเจ็บสาหัส
โดยหลานชาย มีแผลฉีกขาดที่คางเย็บ 8 เข็ม เท้าฉีกเย็บ 6 เข็ม ส่วนเพื่อนหลาน สะโพกหัก 2 ข้างต้องผ่าตัดยิงน็อต , ข้อมือขวา และขาซ้ายท่อนล่างหักต้องดามเหล็กไว้ รักษาตัวที่ รพ.นานเกือบ 1 เดือน แล้วออกมารักษาตัวที่บ้านต่อจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่หายดี ต้องไปตรวจรักษาตามที่หมอนัดเป็นระยะ
นางหนูแดง กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุคู่กรณีไปเยี่ยมที่ รพ.แค่ครั้งเดียว ให้เงินหลานชายและเพื่อนของหลานคนละ 200 บาท จากนั้นก็ไม่เคยมาเยี่ยมหรือถามอาการบาดเจ็บอีกเลย และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ ที่ผ่านมาตอนรักษาที่ รพ. ก็ได้เงินจาก พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์คันที่หลานขับ เป็นค่ารักษาทั้งหลานและเพื่อน แต่ก็ยังไม่พอเพราะค้างค่ารักษาที่ รพ.อยู่กว่า 1 แสนบาท
แต่รถกระบะของคู่กรณีนอกจะจะดัดแปลงเป็นรถการเกษตรแล้วไม่มีไฟหน้าแล้ว พ.ร.บ.ก็ไม่มีอีก และทราบว่าผลตรวจวัดแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนด และถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว แต่คู่กรณีก็ยังใช้ชีวิตตามปกติไม่เห็นได้รับโทษอะไรเลย แถมล่าสุดทราบว่าหลานอาจจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาประมาทร่วมเหมือนกัน จึงเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เพราะฝ่ายตนได้รับความเสียหายทั้งรถและบาดเจ็บสาหัส ยังไม่ได้รับการเยียวยาอะไรเลย แต่หลานยังจะถูกแจ้งข้อหาประมาทร่วมอีก จึงอยากเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวและหลานด้วย
ด้าน นายธนภัทร กล้วยประโคน อายุ 41 ปี พ่อของผู้บาดเจ็บอีกราย กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุคู่กรณีไปเยี่ยมลูกสาวที่ รพ.แค่ครั้งเดียว ให้เงิน 200 บาท จากนั้นก็ไม่มาเยี่ยมอีก ส่วนค่าเยียวยายังไม่ได้สักบาท เคยไปพูดคุยกันที่โรงพัก 2 ครั้งแต่ตกลงกันไม่ได้ ทุกวันนี้ลูกสาวก็ไม่หายดีตนต้องหยุดงานมาดูแลลูกสาว และหลาน 2 ขวบอีก และยังค้างค่ารักษาที่ รพ.อีกกว่า 1 แสนบาท ก็อยากจะขอความเป็นธรรมด้วย เพราะทราบมาว่าคู่กรณีเป็นพ่อตาของตำรวจอีกด้วย
ขณะที่ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สอบสวนคนขับรถกระบะ และแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส และขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน” แล้ว แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
จึงต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติม โดยได้นัดผู้บาดเจ็บไปสอบปากคำที่อัยการในสัปดาห์หน้า เนื่องจากยังเป็นเยาวชน จากนั้นก็จะรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งอัยการ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องตามกระบวนการ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาประมาทร่วมกับผู้บาดเจ็บ ตามที่ผู้ปกครองเข้าใจ ยืนยันว่าดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป