พีระพันธุ์ เปรย ถ้า บิ๊กตู่ ซบรทสช. ไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก นั่งแคนดิเดตนายกฯ ได้เลย ลั่น พร้อมเลือกตั้ง วางตัวผู้สมัครครบทุกภาคแล้ว มั่นใจได้เกิน 25 เสียง

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 ที่ ม.กรุงเทพธนบุรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะมาร่วมงานการเมืองกับพรรค รทสช. ว่า ตนยังไม่ทราบกระแสข่าวที่ออกมา นายกฯ ก็ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ คิดว่าสื่อคงตั้งข้อสังเกตกันไปเอง แต่ในข้อเท็จจริงตนยังไม่มีโอกาสพูดคุยถึงข่าวลือนี้กับนายกฯ เลย เรื่องนี้ตนคงไม่เริ่มต้นถามนายกฯ ก่อน โดยหลังจากการประชุมเอเปค เชื่อว่าคงมีความชัดเจนเหมือนที่นายกฯ พูด

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ปฏิเสธที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าร่วมงานใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยปฏิเสธใครที่คิดว่าแนวทางของพรรคกับของคนๆ นั้นตรงกัน โดยเฉพาะหากนายกฯ มีความสนใจอย่างที่ว่าจริง ตนก็ไม่ขัดข้อง เพราะต้องการรวบรวมคนดีๆ มาทำงานให้กับบ้านเมืองอยู่แล้ว แต่วันนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน

เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคจะเป็นคนพูดคุยกับนายกฯ เองหรือไม่ ในการทาบทาม นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คงต้องรอหลังการประชุมเอเปค ตอนนี้นายกฯ คงเป็นห่วงเรื่องการประชุมเอเปคมากกว่า คงไม่ใช่เวลาที่ตนจะไปสอบถามนายกฯ ในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า มีนักการเมืองบางคนตั้งข้อสังเกตว่า หากนายกฯ มาอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ จะแพ้พรรคเพื่อไทยแน่นอน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ การเมืองไม่มีอะไรชัดเจน ไม่มีใครรู้อนาคตทางการเมือง แม้แต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วก็ไม่ได้คิดว่าพลังประชารัฐ จะได้ ส.ส.เข้าสภาฯ มากมายขนาดนั้น จากประสบการณ์ของตนการเมืองเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาปรามาสว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ที่นั่งในสภาไม่ถึง 25 เสียง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่เห็นว่านายทักษิณจะชื่นชมใคร นอกจากพรรคของตัวเอง เป็นเรื่องปกติธรรมดา ตนไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้

เมื่อถามว่า มั่นใจพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้ 25 เสียง เพื่อที่จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ ได้ ใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 หรือหาร 500 เราไม่สนใจ เพราะพรรคเน้นที่ส.ส.เขต ตนมั่นใจในศักยภาพของพรรคว่า จะสามารถปักธงได้ในพื้นที่ต่างๆ ที่เรากำหนดไว้ และมั่นใจว่าจะได้เกิน 25 เสียงแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีคนดีเด่นดังเข้ามาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มอีกหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวรอดูก็แล้วกัน” เมื่อถามย้ำว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาร่วมงาน ตำแหน่งใดที่จะเหมาะสมกับท่าน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะวันนี้ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ อะไรที่ยังไม่เกิดขึ้นก็ไม่รู้จะคิดไปทำไม และพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่ได้มาเขียนใบสมัคร

เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์มา จำเป็นต้องเขียนใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคก่อนหรือไม่ หรือมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้เลย นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า แล้วแต่ท่าน ยังไม่ได้คิด ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่ได้พูดคุยกันเลย การให้การสนับสนุนพรรคการเมือง ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรคเสมอไป การสนับสนุนพรรคการเมือง ทำได้ 2 แบบ คือเข้ามาเป็นผู้เล่นเอง หรือเป็นสมาชิกพรรค อีกแบบหนึ่งคือสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ซึ่งตรงนี้ตนยังไม่เคยคุยกับนายกฯ

เมื่อถามว่า หลังจากมีกระแส พล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้สมาชิกพรรคใจฟูกันมาก นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่มีเลย เฉยๆ ปกติ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา ในการประชุมพรรคก็ไม่มีอะไร ข่าวที่ออกไปก็ไม่รู้เอามาจากไหน ไม่เป็นความจริง ตนก็งงว่าเราคุยกันปกติ แต่กลับมีรายงานข่าวว่า ผู้บริหารพรรคพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ซึ่งไม่มีเลย ไม่รู้ผู้สื่อข่าวไปโดนใครหลอกมา

เมื่อถามว่า ถ้านายกฯ ตัดสินใจเข้ามา พรรครวมไทยสร้างชาติจะวางตำแหน่งใดที่เหมาะสมให้ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ถึงตอนนั้นค่อยคิดกัน ถ้านายกฯ มาแล้ว หรือได้พูดคุยกับตนแล้ว ส่วนกรณีวางตัวผู้สมัครส.ส.ภาคใต้นั้น วางตัวไปเสร็จเรียบร้อยนานแล้ว ตอนนี้หมดเรื่องการเตรียมหาตัวผู้สมัครแล้ว เราเตรียมเลือกตั้งอย่างเดียว ซึ่งการเปลี่ยนตัวบุคคลคงไม่มี แต่ถ้าตรงไหนที่เรายังไม่มีตัว แล้วมีคนใหม่เข้ามาตรงกับเขตนั้นก็โอเค

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าหากพล.อ.ประยุทธ์มา ก็จะมีส.ส.ภาคใต้ ตามมาด้วย อาจจะซ้ำกับพื้นที่ที่วางไว้แล้ว นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนเป็นคนบริหารพรรค ต้องรักษาคำพูด หากตนมั่นใจแล้ว รับปากกับใครแล้ว ตนไม่เปลี่ยน ไม่เช่นนั้นคงบริหารพรรคไม่ได้ แต่ถ้ามาจริงก็เป็นเรื่องของบุคคลที่ต้องคุยกันเอง ไม่ใช่เรื่องของพรรค ส่วนจะต้องทำโพลอีกรอบหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่เขาต้องตกลงกันเอง ส่วนใครจะถอย หรือจะอยู่ตรงไหน ก็ค่อยว่ากันอีกที

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พรรคมีตัวผู้สมัครส.ส.ครบทุกภาคแล้ว แต่จะมีการตัดสินใจอีกครั้งหนึ่งในบางเขต โดยตนตั้งใจจะส่งให้ครบทุกเขต แต่จากประสบการณ์ที่ทำงานการเมืองมากกว่า 30 ปี พอถึงเวลา คนที่ยื่นความจำนงก็ถอนตัว ฉะนั้น ตนจึงบอกว่าการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน

เมื่อถามว่า คาดหวังให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคขนาดใด นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป็นธรรมดาที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องการเป็นพรรคใหญ่ แต่จะได้แค่ไหนอยู่ที่ความไว้วางใจของประชาชน ที่จะคิดว่าแนวทางที่พรรคนำเสนอไปนั้น ใช่สำหรับเขา และสามารถทำได้จริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายกฯ มาแล้ว มีสมาชิกจากพรรคพลังประชารัฐมาช่วยเติมก็ยินดีใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า อย่าว่าแต่พรรคพลังประชารัฐเลย ได้ทุกพรรค เว้นแต่มีคนใหม่เข้ามา แต่บางครั้งคนใหม่ก็ยังไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง ยังไม่มีความเข้าใจในทางการเมือง ก็ต้องอบรมและสอนกันก่อน

เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังเป็นชื่อนายพีระพันธ์อยู่ใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า วันนี้ยังมีตนเป็นหัวหน้าพรรค และยังไม่มีคนอื่นมา จริงๆ ก็คือยังไม่ถึงเวลา วันนี้เราเตรียมการเลือกตั้งมากกว่า เพราะถ้าเราไม่มีความพร้อมเรื่องการเลือกตั้ง ก็อย่ามาพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีคนใหม่เข้ามาร่วมงานแล้วมาสร้างกลุ่มก้อนภายในพรรค จะมีมาตรการใดหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่มี พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่ให้มีกลุ่มก้อนในพรรค ถ้าใครจะมาสร้างกลุ่มก้อนในพรรคก็ไปอยู่ที่อื่น