พิม พิมประภา เอาไม่อยู่ เข้าฉากเลิฟซีน พุฒ เกร็งจนท้องลั่น
ตั้งแต่ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ นักแสดงสาว พิม พิมประภา ตั้งประภาพร กลายเป็นลูกรักของค่าย เช้นจ์ 2651 เพราะมีละครป้อนให้ไม่ขาด บทที่ได้รับก็เป็นสาวแซ่บ เลิฟซีนดุเดือดแทบทุกเรื่อง แถมยังเป็นบทเมียน้อย ล่าสุดได้เจอนักแสดงสาวในงานบวงสรวงละครเรื่อง ดงดอกไม้ ที่สาวพิมรับบทเป็นทนายความ แต่จับพลัดจับผลูกลายมาเป็นเมียน้อยของ พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน
หลังจากจบพิธีบวงสรวงผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ช่วงนี้มีแต่บทที่ต้องเป็นเมียน้อยทั้งนั้น? “คือทุกเรื่องที่ทางเช้นจ์ยื่นให้เรา พิมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาคัดมาให้เรา เหมาะกับเราและเป็นบทที่ดี เพราะฉะนั้นครึ่งหนึ่งเราก็มั่นใจในเช้นจ์อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องที่ดี นอกจากนั้นก็ดูที่คิวแล้วว่าจะลงได้หรือเปล่า แล้วก็เล่นไหวไหม ซึ่งพออ่านแล้วพิมรู้สึกว่ามันเป็นบทที่น่าสนใจ ถึงจะเป็นตัวละครที่เหมือนจะเข้าไปแย่งกัน แต่มันก็เป็นอีกรูปแบบ ซึ่งมันไม่เหมือนกับ 2 เรื่องที่ถ่ายไป กับตัวละครนี้เขามีพื้นฐานที่เป็นคนที่จิตใจดีมากๆ ด้วยความที่เป็นทนายความถูกต้องเป็นหลักมากๆ ปูเรื่องมาจะสงสัยว่าทำไมเป็นเมียน้อย
เราเป็นทนายที่ทำคดีหย่าให้คนโน้นคนนี้ ซึ่งเราก็มองเห็นว่าปัญหาครอบครัว สามีหย่าร้างมันเป็นอย่างไร แต่เราก็ดันหลงไปอยู่จุดนั้นกับเขา เพราะฉะนั้นตัวละครตัวนี้ เป็นตัวแทนของผู้หญิงธรรมดาคนนึงที่ตั้งใจมากๆ ที่จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด แต่ว่าชีวิตมันก็นำพาให้เราไปยืนอยู่จุดนั้นได้อย่างไร สุดท้ายแล้วจะกลับใจได้อย่างไร พิมรู้สึกว่ามันเป็นตัวละครที่ให้อะไรกับคนดูมากๆ”
บทแบบนี้มันค่อนข้างถึงเนื้อถึงตัว?
“เรื่องนี้ถ้าเทียบกับเรื่อง โฉมโฉด น้อยลงเยอะเลย ไม่ได้มีเยอะมาก ตัวละครที่แซ่บๆ น่าจะไปทางคนอื่น ของพิมจะไปในทางที่สู้ในเรื่องของความถูกต้อง ถามว่ามีเลิฟซีนไหม ก็มีค่ะ”
ฉากเลิฟซีนเอาอยู่ไหม?
“คิดว่าเอาไม่อยู่ เพราะว่าตอนถ่ายอายมาก มีเข้าเลิฟซีนกับพี่พุฒฉากแรก มันเป็นซีนที่ต้องลงเตียง เป็นฉากโรแมนติกมาก ในกองก็เงียบ แล้วก็มีเสียงท้องพิมดังครืดออกมา คัตเท่านั้น พิมอายมาก คิดว่าเอาอยู่แต่จริงๆ แล้วเอาไม่อยู่ค่ะ(หัวเราะ) มันตื่นเต้นค่ะ มันมวลท้อง เราก็คิดว่าเราไม่ตื่นเต้นนะ แต่ร่างกายเราคงบอกว่าฉันตื่นเต้น”
หิวด้วยหรือเปล่า?
“ไม่ กินข้าวแล้ว น่าจะเป็นที่การเข้าเลิฟซีนนี่แหละ เรามีความตื่นเต้นทุกครั้งในการเข้าเลิฟซีนกับพระเอก ไม่เคยชินสักครั้ง แล้วครั้งนี้เสียงท้องดังมาก แล้วพี่พุฒสปิริตแรงมากเลยนะ พี่พุฒเล่นต่อ แต่พิมเล่นต่อไม่ไหว หลุดขำแล้ว”
ที่ผ่านมาที่เล่นเลิฟซีนกับคนอื่นเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไหม?
“ไม่เคย เราเอาอยู่มาตลอด แต่ครั้งนี้เจอพี่พุฒเราเอาไม่อยู่ คือตัวละครเราในเรื่องนี้ก็แอบแซ่บเหมือนกัน”
ตอนที่เราอยู่ที่เดิมบทจะเรียบร้อย แต่พออิสระบทแซ่บมาก?
“เหมือนกับว่าเราได้อัพเลเวลการแสดงของเราด้วยมันไม่ใช่เลิฟซีนอย่างเดียว มันเป็นความหลากหลายในทางการแสดงที่เราได้ลองได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น เป็นในเส้นทางการแสดงที่เราไม่เคยลองมาก่อน”
คนจำภาพเมียน้อยไปแล้ว?
“ได้ค่ะ ถ้าคนจำเรา เรารู้สึกว่ามันเข้าไปอยู่ในใจเขา เขาอินในตัวละครของเราแล้ว ไม่ว่าเรื่องไหนเขาจะจำเราในแบบไหน เราก็ดีใจหมด (พี่ๆในสังกัดเดียวกันก็มาแนวนี้กันหมด?) ถ้าเอาพิมไปเทียบกับพี่ๆ เขาพิมสู้เขาไม่ได้เลย เราก็แต่งตามแฟชั่นหวานบ้าง เปรี้ยวบ้างตามฟีล”
ฉากเลิฟซีนเราก็พลิ้วอยู่?
“ท้องร้องพลิ้วไหมอ่ะ(หัวเราะ) ไม่พลิ้วนะ(เราก็ฝ่าได้ทุกด่านนะ?) ต้องขอบคุณพี่ฉอดกับพี่เอสมากๆ ที่ให้โอกาสเรา เพราะฉะนั้นเราก็เล่นสุดตัวอยู่แล้ว ไม่ว่าเขาจะให้เราเล่นแบบไหน อยากให้เราปรับแก้อะไร เราพร้อม”
ไม่ซีเรียลใช่ไหมที่ฉากเลิฟซีนแต่ละเรื่องของเรามันจะเป็นภาพจำ?
“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้เขามีภาพจำ แต่พอเรื่องใหม่เราไปเล่นเป็นนางเอก หรือว่าบทอื่นๆ หวังว่าเขาจะจำบทใหม่ของเราเหมือนกัน เราก็อยากให้ทุกคนจำภาพว่าเราเป็นนักแสดงที่ทุกบทเราสามารถที่จะเล่นได้”
อยากกลับไปเล่นบทนางเอ๊กนางเอกไหม?
“มีวางไว้แล้วค่ะ (กลัวว่าคนจะไม่เชื่อแล้วไหม?) มันก็เป็นความท้าทายของเรา ที่เราจะต้องทำการบ้านให้คนเชื่อให้ได้ค่ะ เราก็เต็มที่ทุกเรื่องอยู่แล้ว สมมุติว่าคนติดภาพเรา มันก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องนำเสนอให้คนเห็นว่านี่ไม่ใช่พิม หรือตัวละครอื่นๆ ที่เคยเล่นมา แต่เป็นตัวละครนี้ในเรื่องนี้”
ตอนนี้เรามีโลโก้แซ่บ เรามีลิมิตไหม?
“ลิมิตก็คงประมาณนี้ ไม่ได้ไปไกลกว่านี้ดีกว่า ที่นี้ก็เหลือแค่บทของละครแล้วล่ะ ที่เราจะพิจารณาในการรับ (เลิฟซีนเล่นจริง หรือเสมือนจริง?) เช้นจ์เล่นจริงอยู่แล้วค่ะ เราก็เล่นจริง เพราะเราเล่นให้เช้นจ์”