ภายหลัง การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยวาระแรกได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยทั้งสภาฯ มีมติเอกฉันท์ เสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ แต่เพียงผู้เดียว
ทางด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้มีการโพสต์ ข้อความ ผ่าน Facebook โดยระบุข้อความว่า “ภายหลังข้อสรุปการตัดสินใจร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงยอมถอยเรื่องตำแหน่งประธานสภา ทั้งที่ได้ประกาศวาระที่ต้องการผลักดันไปแล้วกับประชาชน”
ผมขอยืนยันว่าการตัดสินใจของเรา เราตัดสินใจภายใต้การรักษาเอกภาพการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พวกเราถอยจากเงื่อนไขเดิมที่พวกเราตั้ง ภายใต้เงื่อนไขการบริหารงานสภาภายใต้นโยบายที่พรรคก้าวไกลแถลงไปแล้ว
ก่อนที่เราจะทำการตัดสินใจ พวกเราได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์วันนอร์ เราได้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาว่า “สภาก้าวหน้า”, “สภาโปร่งใส”, “สภาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” จะเป็นนโยบายหลักภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของอาจารย์วันนอร์
- ศึกชิง! รองประธานสภา คนที่1 ปดิพัทธ์ กก. VS วิทยา รทสช.
- ไม่มีใครสู้! เสนอชื่อ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” เป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร
- ชัยชนะ ลั่น! โหวต ‘วันนอร์’ ปัดโหวต รองปธ.สภา ก้าวไกล เพราะขัดจุดยืน
นอกจากนี้ อ.วันนอร์ ยังให้คำมั่นกับพวกเราว่ากฎหมายสำคัญของพรรคก้าวไกล เช่น สุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม กฎหมายเพื่อกลุ่มพี่น้องแรงงาน และกฎหมายเพื่อกลุ่มชาติพันธุ์ จะไม่ถูกขัดขวางหรือถ่วงให้ช้าไม่ว่าด้วยความไม่ไว้วางใจหรือความไร้ประสิทธิภาพภายใต้การทำงานของ อ.วันนอร์
โดยส่วนตัว ผมได้มีโอกาสร่วมงานกันภายใต้พรรคร่วมฝ่ายค้านในรัฐบาลที่ผ่านมา ในทุกการประชุมร่วมกัน อ.วันนอร์ยืนอยู่ข้างเหตุผลและความถูกต้องอยู่เสมอ ซึ่งเป็นจุดร่วมกันกับที่พรรคก้าวไกล จนผมกล้าพูดได้ว่า อ.วันนอร์เป็นหนึ่งคนที่ผมสามารถไหว้ได้อย่างสนิทใจ
ภายใต้ฉากทัศน์ที่ไม่แน่นอนของการเมืองไทย พวกเราไม่ประมาทในทุกสถานการณ์ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจของพวกเรา พรรคก้าวไกลทำภายใต้ความคิดว่า “หลักการสำคัญกว่าตัวบุคคล” สาเหตุที่เราเสนอชื่อปดิพัทธ์ ไม่ใช่เพราะคุณปดิพัทธ์คือคุณปดิพัทธ์ แต่เพราะเราเชื่อว่าคุณปดิพัทธ์คือคนที่พรรคก้าวไกลเชื่อมั่นว่าจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงสภาให้เป็นแบบที่เราอยากเห็นได้
สุดท้าย ไม่ว่าฉากทัศน์จะเป็นอย่างไร ผมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ การตัดสินใจครั้งนี้ของพวกเราไม่ใช่การเอาประโยชน์ของผมหรือพรรคก้าวไกลเป็นตัวตั้ง แต่เป็นภารกิจเพื่ออนาคตการฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ
การตัดสินใจภายใต้เงื่อนไขรัฐบาลผสม สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้ที่จะเดินหน้าและถอยภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม การตัดสินใจของพรรคก้าวไกลในวันนี้ ไม่ใช่เป็นไปเพื่อเหตุผลทางการเมืองเฉพาะหน้า แต่เราตัดสินใจจากคุณค่าพื้นฐานร่วมกันของพรรคในการทำงานการเมืองระยะยาวเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้สำเร็จได้ โดยมีเส้นที่เราจะไม่สามารถล่วงล้ำได้เลย คือการทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY