วันที่ 13 เม.ย.เว็บไซต์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า พายุทรายซึ่งกำลังพัดถล่มจีน ส่งผลกระทบไกลถึงญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในช่วงที่คุณภาพอากาศเลวร้ายลง นับเป็นการตรวจจับฝุ่นพายุทรายได้ครั้งแรกทางภาคเหนือและตะวันตกของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2564 ขณะที่ดัชนีแอร์โคเรียเตือนว่าทุกภูมิภาคของเกาหลีใต้จะมีอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก

พายุทรายที่พัดทางเหนือของจีนพัดข้ามทะเล ปกคลุมท้องฟ้าจากเกาหลีใต้ไปจนถึงญี่ปุ่นและนำเอาฝุ่นเหลืองไปยังกรุงโตเกียวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นระบุว่า ฝุ่นพายุทรายถูกตรวจจับได้ในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นและคาดว่าจะพบฝุ่นตลอดวันพฤหัสบดีที่ 13 เม.ย. และส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยน้อยกว่า 5 กิโลเมตรในบางพื้นที่ อนุภาคฝุ่นถูกตรวจจับได้ในกรุงโตเกียวเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี

ในเกาหลีใต้ คนเดินทางไปทำงานโอดครวญถึงอาการเจ็บคอ โดยแอร์โคเรีย ดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศในเกาหลีใต้เตือนว่า ทุกภูมิภาคของประเทศจะมีอากาศที่อันตรายต่อสุขภาพอย่างมากเนื่องจากพายุทราย ซึ่งระดับของฝุ่นละเอียดพุ่งขึ้นสูงกว่า 10 เท่ากว่าค่าเฉลี่ยเมื่อวันพุธที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีนออกประกาศคำเตือนพายุทรายเป็นครั้งที่สองในสัปดาห์นี้ ระบุว่าอากาศเลวร้ายในวันพฤหัสบดีที่ 13 เม.ย.และ 14 เม.ย. และพัดไปทั่วประเทศจีนจากเขตปกครองตนเองมองโกเลียในไปถึงกรุงปักกิ่งจนถึงนครเซี่ยงไฮ้

ในกรุงปักกิ่ง พายุฝุ่นเกิดขึ้นบ่อยครั้งนับตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสตลกร้ายในโซเชียลมีเดีย ชาวจีนโพสต์ “吃土”หรือ “eating dirt” ซึ่งแปลตรงตัวว่า กินดิน กินสิ่งสกปรก หรือความหมายจริงๆว่า ยอมรับคำสบประมาทโดยไม่มีบ่น อีกทั้งเกิดมีมแพร่หลายทั่วกลุ่มแอพพลิเคชั่นวีแชต เช่น การ์ตูนแห่งพายุฝุ่น ซึ่งแปลงร่างคนที่เดินทางไปทำงานเป็นหุ่นทหารดินเผา

ฝุ่นยังจุดชนวนเกมตำหนิ กล่าวโทษกันไปมาระหว่างชาติต่างๆ ซึ่งหัวหน้านักอุตุนิยมวิทยาของจีนกล่าวว่า พายุทรายระลอกล่าสุดมีต้นกำเนิดจากประเทศมองโกเลีย ซึ่งสภาพอากาศที่อบอุ่นและแห้งระเหยความชุ่มชื้นในดิน สร้างอนุภาพหลวมๆ และถูกลมพัด นอกจากนี้โกลบอลไทม์ หนังสือพิมพ์จีนวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อการพาดหัวข่าวของสื่อเกาหลีใต้ที่ระบุว่า พายุทรายมาจากจีน
……………