'พระไพศาล' ยกธรรมะ สอนบทเรียน แดงเดือด ผี โดน หงส์ ถล่ม 7-0

Home » 'พระไพศาล' ยกธรรมะ สอนบทเรียน แดงเดือด ผี โดน หงส์ ถล่ม 7-0



‘พระไพศาล’ ยกธรรมะ สอนบทเรียน แดงเดือด ผี โดน หงส์ ถล่ม 7-0 ชี้สติเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะถ้าขาดสติ ก็กลายเป็นการลงโทษตัวเอง

เป็นอีกหนึ่งควันหลงหลังเกมแดงเดือด ที่ ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ ถล่มเอาชนะ แมนยูฯ ไปได้ 7-0 เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nonglak Trongselsat เผยแพร่บทสนทนาธรรมพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก่อนฉันเช้าวันที่ 8 มีนาคม 2566 ความว่า ลงโทษตัวเองเพราะขาดสติ
ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีคนพูดถึงกันมาก โดยเฉพาะคนที่สนใจฟุตบอล เพราะว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีนัดสำคัญ ฟุตบอลนัดสำคัญ วันนั้นเขาเรียกว่าวันแดงเดือดเลย เพราะว่าทีมสีแดงคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ดวลแข้งกัน ปรากฏว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ถึง 7 ประตู

  • ย่อยยับ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถล่มโหด แมนฯ ยูไนเต็ด หมดรูป 7-0 ศึกแดงเดือด

ลิเวอร์พูลชนะถึง 7:0 คนก็เลยพูดถึงกันมาก อาตมาอยู่ไกลวงการฟุตบอลก็ยังได้ยินเรื่องนี้เลย ที่พูดนี่ก็มีทั้งการเย้ยหยัน แฟนลิเวอร์พูลก็เย้ยหยันแฟนแมนยู แฟนแมนยูก็ก่นด่า สุดแท้แต่ว่าจะหาใครเป็นแพะรับบาป ด่าโค้ชบ้างล่ะ หรือว่าด่านักฟุตบอลในทีมของตัวบ้างล่ะ หรือไม่ก็ทะเลาะกันกับแฟนของลิเวอร์พูล เพราะถูกหยามหน้า ถูกหยามเหยียด

แต่คนก็ไม่ค่อยได้ใคร่ครวญว่ามันสอนอะไรเรา จริงๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่เก่ง แล้วก็อันดับเหนือกว่าลิเวอร์พูล แต่ทำไมถึงแพ้ลิเวอร์พูลได้ถึง 7:0 ที่จริงตอนที่เริ่มแข่ง ทีมแมนยูเชื่อว่าจะเอาชนะลิเวอร์พูลได้ไม่ยาก เพราะว่าเดี๋ยวนี้ลิเวอร์พูลฝีมือตกไปเยอะ

สองทีมนี้เรียกว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน แมนยูก็อยากจะมาชำระแค้น เพราะแพ้มาหลายครั้งแล้ว และนี่เป็นโอกาสดีที่จะได้มาปราบลิเวอร์พูลถึงถิ่นเลย เพราะแมนยูเป็นทีมเยือน มั่นใจมากว่าชนะแน่ แต่พอเล่นไปๆ ปรากฏว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะว่าลิเวอร์พูลเล่นได้ดี

และพอพลาดไป 1 ประตู ทีมแมนยูนี่ ตามที่เขาว่านะ อาตมาไม่ได้ดูหรอก ก็เริ่มหวั่นไหวแล้ว และพอเสียประตูที่ 2 เริ่มรวนแล้ว ทำให้เสียประตูที่ 3 ตอนนี้จะเรียกว่า ขาดสติกันเลย เพราะรวนมาก ไม่คิดว่าจะถูกยิงมากขนาดนี้ พอหวั่นไหว แล้วก็เริ่มจะขาดสติ ก็เล่นผิดเล่นพลาดกันมากขึ้น สุดท้ายก็โดนทีมลิเวอร์พูลยิงไปอีก 4 ประตู

นับเป็นการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่เลย ครั้งประวัติศาสตร์เลย เพราะว่าไม่ได้ถูกยิงมา 7 ประตูอย่างนี้มา 90 กว่าปีแล้ว เก่งแค่ไหน แต่ถ้าเกิดว่าขาดสติมันก็หมดสภาพเลย ไม่เหลือฟอร์มเลย

ที่จริงตอนที่ถูกยิงไป 3 ประตู ถ้าตั้งสติดีๆ ใจสู้ ก็อาจจะสามารถจะตีคืนได้ เผลอๆ อาจจะชนะได้ด้วย อาจจะยิงได้ถึง 4 ประตู อย่างทีมลิเวอร์พูลเคยโดนยิงไปแล้ว 3 ประตู แต่พอครึ่งหลังก็สามารถจะแก้คืนได้ 3 ประตู แก้คืนได้ 3 ประตูก็เสมอ นี่เพราะว่าตั้งสติดี ไม่เอาความผิดพลาดที่ผ่านมาในครึ่งแรกมารบกวนจิตใจ

ถ้าหากว่าคนนี่ เวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วพยายามมีสติอยู่กับปัจจุบัน ที่พลาดไปแล้วก็ลืมไปก่อน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ก็สามารถจะนำเอาประสบการณ์แล้วก็ความสามารถที่มี มาใช้ได้อย่างเต็มที่ แต่พอไปนึกถึงว่า เราเสียทั้ง 3 ประตูแล้ว เสียหน้ามาก ก็เริ่มขาดความมั่นใจ เริ่มตื่นตระหนก ไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน แล้วพอไม่ได้อยู่กับปัจจุบันก็เล่นผิดเล่นพลาด ทำให้เสียประตูมากเลย

คนที่เล่นกีฬา อย่างเล่นเทนนิสพวกนี้ เขาก็เตือนกันไว้เลยว่า เวลาตีผิดตีพลาดให้ทิ้งมันไปเลย อย่าไปสนใจ ให้อยู่กับปัจจุบัน เพราะไม่อย่างนั้น ถ้าไปกังวลถ้าไปพะวง หรือไปนึกถึงความผิดพลาดในไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ก็จะขวัญเสีย จะเกิดความไม่มั่นใจ แล้วก็ทำให้ความสามารถที่มีไร้ประโยชน์เลย ยิ่งเล่นก็ยิ่งทำโทษตัวเอง คือเสียคะแนนไปเรื่อยๆ

นี่สอนใจเราได้ดี ถึงแม้จะไม่ได้สนใจฟุตบอล ถ้าหากว่าแม้จะมีความสามารถแค่ไหน แต่ถ้าหากว่าไม่มีสติ ขาดสติแล้ว ก็ลงโทษตัวเอง

อย่างบราซิลแข่งฟุตบอลโลกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เล่นในบ้านของตัวเองแท้ๆ แพ้เยอรมันถึง 7:1 ซึ่งเป็นสกอร์ที่ไม่มีใครคาดคิด แพ้คาบ้านขนาดนั้นเลย เป็นที่อับอายจนมาถึงทุกวันนี้ ก็เหมือนกัน คือเล่นไปๆ พอแพ้ก็เริ่มรวน ขาดสติ พอขาดสติก็เล่นผิดเล่นพลาด ปั่นป่วน โทษกันไปโทษกันมา เลยยิ่งเป็นจุดอ่อนให้อีกฝ่ายหนึ่งเล่นงาน จนเรียกว่าเสียหาย กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ดำมืดไปเลย

ฉะนั้นคนเราทำอะไรก็ตาม แม้จะมีความสามารถแค่ไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือสติ เพราะว่าถ้าขาดสติแล้ว ก็กลายเป็นการลงโทษตัวเอง อาจจะลงโทษทางกาย หรือลงโทษทางใจ อย่างที่ฟุตบอลเมื่อ 3-4 วันก่อนมันได้สอนเรา

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ