ฝ่ายค้าน-สมาคมแพทย์นิติเวช ร้องศาลปกครอง เบรกกฎกระทรวงปลดล็อกกัญชา ด้าน “หมอสมิทธิ์” อัดสธ.หยุดหลอกลวงประชาชนใช้กัญชาเพื่อการแพทย์

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.65 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(ประธานวิปฝ่ายค้าน) พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึง นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ในฐานะกรรมการแพทยสภา ร่วมกันแถลงข่าวกรณียื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อพิจารณาเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ หลังปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด

นายสุทิน กล่าวว่า หลังจากที่เราได้รับการประสานจากลุ่มคนแพทย์หลายองค์กร โดยเฉพาะสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องกัญชากัญชงมาโดยตลอด ทั้งนี้จากที่ได้ติดตามการพิจารณาของสภา เห็นว่าการดำเนินไปของกัญชาเสรีถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วง จึงมีความเห็นตรงกับฝ่ายค้านว่าน่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี จึงเห็นว่าควรหยุดยั้ง โดยขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว เพื่อให้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขสะดุดหยุดลง โดยล่าสุดนพ.สมิทธิ์ พร้อมเครือข่ายยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเป็นที่เรียบร้อยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในส่วนของฝ่ายค้านไม่ขัดข้องในการร่วมเข้าชื่อ เพราะเป็นแนวทางที่ตรงกันอยู่แล้ว

ด้านนพ.สมิทธิ์ กล่าวว่า กฎหมายที่ใช้ควบคุมในขณะนี้จะส่งผลให้มีการใช้กัญชาเสรีโดยที่ไม่มีอะไรควบคุม ต้องขอขอบคุณพรรคฝ่ายค้านที่ร่วมเขียนคำร้องในการยื่นศาลปกครอง ทั้งนี้มองว่า ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่ปลดกัญชาออกจากยาเสพติดไม่ได้เกิดจากการใคร่ครวญอย่างดี จึงต้องขอให้ศาลปกครองทุเลาประกาศ นอกจากนี้มองว่า ประกาศดังกล่าวทำให้มีการใช้กัญชาที่เกินเลยจากการใช้เพื่อการแพทย์ไปมาก

“การโปรโมทว่านำกัญชาไปทำอาหาร นำไปทำไอศกรีม จึงเป็นเรื่องที่โกหกเพราะไม่ใช่การใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ แต่เป็นการนำกัญชาไปใช้เรื่องสันทนาการอย่างน่าชัดเจน จึงขอเรียกร้องว่าอย่าโกหกประชาชน” นพ.สมิทธิ์ กล่าว

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า 9 มิ.ย.ที่ผ่านมาทุกส่วนของกัญชาไม่ถือว่าเป็นยาเสพติด เพราะประกาศกฎกระทรวง กำหนดให้กระทรวงไปกำหนดประเภทของยาเสพติด การจะไปกล่าวอ้างว่า ฝ่ายนิติบัญญัติไปยกเลิกแล้วไปทึกทักว่ากัญชาไม่ใช่ยาเพติดถือเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นเพื่อระงับยังยั้ง พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงมีมติเห็นพ้องต้องกันในการเข้าชื่อร่วมกับภาคประชาชน เข้าชื่อเพื่อร้องให้ศาลพิจารณาในเรื่องนี้

เมื่อถามถึงจุดยืนฝ่ายค้านในการโหวตร่างพ.ร.บ.กัญชา นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคร่วมฝ่านค้านได้หารือกันเบื้องต้น เห็นว่าการพิจารณาในวาระ 2 เป็นลักษณะการพิจารณารายมาตรา ซึ่งข้อห่วงใยต่างๆ ถ้าปรับแก้ตามที่สมาชิกมีการสงวนความเห็น หรือสวงนคำแปรญัตติไว้ ก็อาจจะให้ความเห็นชอบในรายมาตรา แต่เท่าที่ดูร่างดังกล่าวมีการเพิ่มจาก 45 มาตราเป็น 95 มาตรา ขณะที่ข้อเสนอต่างๆกมธ.ไม่ได้มีการปรับแก้

ฉะนั้นหากกมธ.ยังยืนยันที่จะไม่มีการแก้ไข การลงมติเราก็ยืนยันจะไม่เห็นด้วย ฉะนั้นในการโหวตวาระ3ซึ่งเป็นการให้ความเห็นชอบทั้งร่าง ถ้าไม่มีการแก้ไขเลย ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเราจะโหวตคว่ำในท้ายที่สุด