ผู้ตรวจการแผ่นดิน เด้งรับคำร้องสอบค่าไฟแพง ชี้สำรองไฟฟ้ามากไป กระทบ ปชช.

Home » ผู้ตรวจการแผ่นดิน เด้งรับคำร้องสอบค่าไฟแพง ชี้สำรองไฟฟ้ามากไป กระทบ ปชช.



ผู้ตรวจการแผ่นดิน รับคำร้อง ศรีสุวรรณ ยื่นสอบค่าไฟฟ้าแพง เหตุสำรองไฟฟ้าเกินความต้องการ เตรียมพิจารณาข้อเท็จจริงเพราะมีผลกระทบต่องบประมาณ

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2566 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้แสวงหาข้อเท็จจริงกรณีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากค่าไฟฟ้ามีราคาแพง การขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ FT อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปริมาณไฟฟ้าสำรองมีมากแต่กลับเปิดโอกาสให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนเพิ่มเติมต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 53,000 เมกะวัตต์แล้ว อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนพลังงานหรือไม่ และมีข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขระงับความเดือดร้อนให้กับประชาขน

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า อัตราการใช้ไฟฟ้าสูงสุดปี 65 มีปริมาณ 31,000 กว่าเมกะวัตต์ ปริมาณไฟฟ้าสำรองในขณะนี้จึงมากกว่า 2 หมื่นเมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 60% ทั้งที่ตามหลักสากล กำหนดให้มีไฟฟ้าสำรองเพียง 10-15% เท่านั้น ขณะที่คณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กฟผ. รมว.พลังงาน และหน่วยงานการไฟฟ้าทั้ง 3 หน่วยงาน กลับมีความสามารถขั้นเทพ สำรองไฟฟ้าไว้ถึงกว่า 5 หมื่นเมกะวัตต์ สร้างความเดือดร้อนให้ต้องนำเงินภาษีประชาชนมาจ่าย

แต่ผู้ว่าการไฟฟ้า กลับอ้างว่าเป็นหนี้ และแก้ปัญหาด้วยการขึ้นค่าเอฟที เป็นการผลักภาระให้กับประชาชน ทั้งที่ปริมาณไฟฟ้าสำรองยังมีมาก แต่ก็ยังเปิดรับซื้อทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นไม่เป็นธรรมกับประชาชน แต่เจ้าของกิจการไฟฟ้ากลับรวยขึ้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เรียกเก็บเงินและคิดอัตราค่าเอฟทีไม่เหมือนกันในทุกครัวเรือน เช่น บางบ้าน เรียกเก็บ 0.9343 บาทต่อหน่วย บางจังหวัดเรียกเก็บ 1.5492 บาทต่อหน่วย เมื่อคิดโดยรวมแล้วจะทำให้อัตราค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังพบการเรียกเก็บค่าบริการรายเดือนที่ต่างกัน เช่น บางบ้าน 24.62 บาทต่อบิล และ 33.29 บาทต่อบิล ทั้งที่ไม่ควรมีอะไรแตกต่างกัน เป็นการคิดค่าบริการที่พิลึกพิลั่น จึงขอให้ผู้ตรวจฯ แสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อมีข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยไม่ต้องรอให้มีรัฐบาลใหม่

“อยากให้นักการเมืองที่หาเสียงเรื่องการลดค่าไฟฟ้า ประกาศเลยว่าพรรคไหนจะลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชน 50 %ภายใน 3 เดือนนับจากนี้ไปเชื่อว่าจะมีคนเลือกพรรคนั้นทันที นักการเมืองโชว์วิสัยทัศน์ลดค่าไฟฟ้าที่ทำกันอยู่ ก็เป็นฝีปากนักการเมืองโกหกประชาชนในฤดูหาเสียง พอมีอำนาจก็ไปเกี๊ยะเซียะ เอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าของกิจการ” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ด้านนายวทัญญู กล่าวว่า สำนักงานจะเร่งพิจารณาทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายเพราะรู้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นทุกข์ของประชาชนที่รอไม่ได้ เป็นเรื่องที่ทุกคนรับรู้ ซึ่งในแง่ความมั่นคง จำเป็นต้องสำรองไฟฟ้าไว้ 10-20 % แต่การสำรองถึง 50-60 % จะมากเกินไปหรือไม่ จะต้องหาข้อเท็จจริง เพราะหากมากไปจะมีผลต่อการนำเงินงบประมาณไปจ่าย จึงเชื่อว่าผู้ตรวจฯ จะพิจารณาโดยเร็ว ซึ่งวันนี้ได้นำคณะทำงานที่จะศึกษาเรื่องนี้มารับฟังการร้องเรียนด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ