ผอ.โรงเรียนแจงข้อเท็จจริง แม่ร้องปวีณา ลูกสาวอนุบาล 3 โดนเพื่อนร่วมห้องย่ำยี ยอมรับ เด็กชายมีพฤติกรรมชอบเล่นแรงๆกับเพื่อน แต่ไม่มีเหตุตามที่เป็นข่าวแน่ ขณะที่พ่อเลี้ยง ลั่นเด็กแค่เล่นกัน จะให้ลูกย้ายโรงเรียนตัดปัญหา
วันที่ 14 ธ.ค.2565 จากกรณีมารดาด.ญ.นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ร้องมูลนิธิปวีณาฯ ระบุลูกสาวถูกนักเรียนชายเพื่อนร่วมห้อง ลากเข้าห้องน้ำโรงเรียนพยายามกระทำชำเรา อ้างเลียนแบบหลานพ่อ นอกจากนั้นยังเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.พระสมุทรเจดีย์เหตุเกิดวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ผอ.โรงเรียน เปิดเผยเรื่องนี้ว่า วันเกิดเหตุตนนั่งทำงานอยู่ในห้องซึ่งติดกับห้องเรียนชั้นอนุบาล ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายหน้าห้องน้ำจึงออกไปดูและสอบถามเหตุการณ์กับนักเรียน นักเรียนเล่าว่าด.ช.เอ ถกกระโปรงและกอดด.ญ.บี จากนั้นด.ญ.ตกใจร้องไห้วิ่งไปบอกรุ่นพี่ชั้นป.5 ว่าถูกด.ช.เอ ข่มขืนรุ่นพี่ก็ไปบอกพี่สาวของด.ญ. ที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันก่อนพี่โทรบอกผู้ปกครองว่าน้องโดนข่มขืน
” การสื่อสารผิดพลาด ความหมายจึงเปลี่ยนไป เพราะจากที่ได้สอบถามนักเรียนมาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ไม่ได้มีการลากเข้าห้องน้ำหรือบังคับถอดเสื้อผ้าแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า ด.ช.เอ ได้ถกกระโปรงและกอดหอมด.ญ.จริง ซึ่งด.ช.เอ เพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนอื่นไม่นาน มีพฤติกรรมชอบเล่นแรงๆกับนักเรียนคนอื่นๆ และดูเหมือนจะชอบเล่นกับด.ญ.บี เป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้ก็ชกเพื่อนผู้ชายจนเลือดกำดาวออก โรงเรียนขอยืนยันว่าเด็กไม่ได้มีการข่มขืนกันตามข่าว ขอความเห็นใจด้วย
เพราะคุณครูทุกคนดูแลนักเรียนเป็นอย่างดี หลังเกิดเรื่องมีการเจรจากันแล้วโดยผู้ปกครองของด.ญ.บี มาขอให้โรงเรียนรับผิดชอบค่าเสียหาย 8,000 บาท ก็ชี้แจงไปว่าโรงเรียนเป็นโรงเรียนรัฐบาลไม่มีงบตรงนี้ แต่ก็จะรับผิดชอบโดยให้เงินส่วนตัวไป 3,000 บาทก็คิดว่าจบไปแล้ว แต่ก็มาทราบภายหลังว่าผู้ปกครองไปร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ ครูประจำชั้นก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะมีการรายงานไปถึงต้นสังกัดเพื่อให้เอาผิดครูฐานปล่อยปะละเลยให้เกิดเรื่อง ”
ผอ.โรงเรียน กล่าวต่อว่า หลังเกิดเรื่องโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ เรียกคุณครูทุกคนประชุมทันทีพร้อมวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำอีก โดยได้กำชับให้คุณครูทุกคนดูแลนักเรียนทุกคนอย่างใกล้ชิด และโรงเรียนก็ได้รับการสนับสนุนกล้องวงจรปิดจากภาคเอกชนมาแล้วก็จะรีบดำเนินการติดตั้งทันที
ด้านพ่อเลี้ยงด.ช.เอ ระบุ หลังเกิดเรื่องถามลูกแล้วว่าทำจริงไหม ลูกก็บอกว่าแค่เล่นกันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น วันเกิดเหตุไปเจรจากับฝ่ายผู้ปกครองของด.ญ.แล้วที่โรงพัก ก็ตกลงกันได้แต่หลังจากนั้นฝ่ายผู้ปกครองมาที่บ้านเรียกค่าเสียหาย 3,000 บาท แต่ตนไม่มีเงินเพราะภรรยาเพิ่งคลอดลูก เจ้าของหอพักสงสารไม่อยากให้เป็นปัญหาและตนมองว่าลูกก็มีส่วนผิดด้วยก็ยอมให้ไป
” ผมมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรเป็นเรื่องใหญ่โตเพราะเด็กแค่เล่นกัน หลังเกิดเรื่องได้ขอโทษอีกฝ่ายแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้าย คิดว่าจบไปแล้ว ส่วนเรื่องที่ลูกบอกกับตำรวจว่าเลียนแบบพฤติกรรมแบบนี้มาจากหลานชายพ่อวัย 13 ปีนั้น ก็ยอมรับว่าลูกพูดจริงแต่ผมไม่มีหลานชาย อาจจะเป็นหลานชายของพ่อแท้ๆ ซึ่งน้องเคยไปอยู่ด้วย เรียนแบบจริงไหมก็ไม่แน่ใจ จากนี้จะให้ลูกย้ายโรงเรียนเพื่อตัดปัญหา สุดท้ายนี้ฝากถึงคู่กรณีว่าอย่าทำแบบนี้มันเดือดร้อนกันหมด ”