ผลาญงบไร้ประโยชน์! ชาวชุมพรโวย ชลประทานสร้างฝาย 35 ล้านบาท เสร็จเกือบปีใช้ไม่ได้ ซ้ำชำรุดหลายจุด พื้นที่การเกษตรเสียหายอีกเพียบ
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2564 นายอัศม์เดช ทวีสุข อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 19 นายสุวารินทร์ ละลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ตำบลละแม อ.ละแม จ.ชุมพร และน.ส.เฉลียว ไอยรากาญจนศักดิ์ อายุ 40 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลละแม(ส.อบต.ละแม) พร้อมตัวแทนชาวบ้านจำนวน 2 ตำบล คือ ต.ละแม และต.ทุ่งคาวัด จำนวน 3 หมู่บ้าน รวมกว่า 30 คน พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ “ฝายบ้านทรัพย์ทวี” พร้อมระบบส่งน้ำ ตั้งอยู่กลางคลองละแม ซึ่งเป็นคลองต้นน้ำจากน้ำตกจำปูน รอยต่อระหว่างหมู่ 8 ต.ทุ่งคาวัด และหมู่ 19 ต.ละแม เป็นโครงการชลประทาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยใช้งบประมาณปี 2563 จำนวน 35 ล้านบาท
ภายหลังสร้างเสร็จเมื่อปลายปี 2564 หรือเกือบ 1 ปี จากการสำรวจพบว่าโครงสร้างของฝายกำแพงปูนมีสภาพแตกร้าว เริ่มชำรุดเสียหายหลายจุด และประตูเปิด-ปิดแบบใช้มือหมุนทั้งสองด้านก็ชำรุดเสียหายเช่นกัน ชาวบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์จากฝายดังกล่าวได้ อีกทั้งชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการก่อสร้าง เนื่องจากการพังทลายของหน้าดินใกล้กับฝาย แต่ไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด
นายอัศม์เดช ทวีสุข อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 19 ต.ละแม กล่าวว่า มีชาวบ้านได้รับผลกระทบหลังจากสร้างฝายน้ำล้นทั้งหมด 3 หมู่บ้าน จำนวน 2 ตำบล คือ ต.ละแม และต.ทุ่งคาวัด แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่ทำไว้กับชาวบ้าน เช่น บริเวณหน้าฝายไม่ได้เทคอนกรีตป้องกันดินทลาย สภาพถนนริมฝายเป็นหลุมเป็นบ่อ และทางสัญจรผ่านยากลำบาก หลังจากทำฝายเสร็จหน่วยงานไม่เคยใส่ใจเลย หรือเปลี่ยนท่อบล็อกแต่ไม่มีการแก้ไขให้ ส่วนเสาไฟฟ้าตามแนวถนนก็ไม่เปลี่ยนจากเสาไม้เป็นเสาปูนเหมือนเดิมที่ชาวบ้านทำไว้ ปัจจุบันมีสายไฟห้อยระเกะระกะและหย่อนถึงพื้นดิน เกรงได้รับอันตราย
ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหากับชาวบ้านที่เป็นเกษตรกร เช่น นายประสิทธิ์ ศรีทันเดช อายุ 48 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.ทุ่งคาวัด หลังสร้างฝายเกิดปัญหาน้ำท่วมสวนปาล์มน้ำมันเสียหายทั้งหมด 5 ไร่ และมีเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรอีกหลายรายที่อยู่ใกล้กับฝาย โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณกว่า 35 ล้านบาท แต่ทำไมชาวบ้านถึงไม่ได้ใช้น้ำ
“สำหรับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากฝากทั้งหมดประมาณ 500-700 หลังคาเรือน จำนวนกว่า 2,000 คน รวมถึงโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสิริราษฎร์ และสำนักสงฆ์แหลมเศียรด้วย อยากถามว่า งบประมาณกว่า 35 ล้านบาท ทำได้เท่านี้เองหรือ งบประมาณแผ่นดินเราอย่าเอามาใช้อย่างไร้ประโยชน์” ผู้ใหญ่บ้านทิ้งท้าย