“ปิยบุตร” แนะ “ก้าวไกล” ถอยไปเป็นฝ่ายค้าน แก้รัฐธรรมนูญ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. ชี้ต่อให้เสนอพิธาไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้เสียงมากกว่านี้
หลังจากเมื่อวานนี้ผลการโหวตนายกรัฐมนตรีของรัฐสภา ที่มี ส.ส. และ ส.ว. ร่วมโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่ง 8 พรรคร่วมรัฐบาลเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ผลโหวตนายพิธาได้ 324 เสียง ไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 375 เสียง ทำให้ไม่ผ่านการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความระบุว่า [แก้ 272 ปิดสวิทช์ ส.ว. หากพวกเขายังไม่ยอมอีก ก็ถอยมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน]
โดยมีสาระสำคัญ ระบุว่า การอภิปรายในประชุมรัฐสภาวานนี้ (13 กรกฏาคม) มีส.ว.จำนวนมาก ลงคะแนนไม่เห็นชอบและงดออกเสียง รวมถึงไม่มาประชุม เชื่อว่าพวกเขาจะไม่เปลี่ยนใจ ให้ความเห็นชอบนายพิธา เป็นนายกฯ แน่นอน ด้วยเหตุผลสำคัญคือการไม่ถอยประเด็นแก้ไขมาตรา 112 แม้พรรคก้าวไกลยืนยันว่าเป็นนโยบายที่รณรงค์หาเสียงประชาชน จำเป็นต้องทำต่อ และพรรคก้าวไกลจะดำเนินการเสนอ ไม่ใช่เรื่องรัฐบาล แต่การแสดงท่าทีของส.ว. ชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจได้
“เว้นแต่มี “ข้อมูลใหม่ หรือสัญญาณใหม่” บังคับให้พวกเขาเปลี่ยนใจ หรือมีมวลชนอันไพศาลออกมาเรียกร้องกดดัน ส.ว. หลายแสนคน หากไม่มีกรณีเหล่านี้เกิดขึ้น ลงคะแนนต่อไปอีกกี่ครั้ง ก็ไม่มีทางที่คนเหล่านี้จะกลับมาเห็นชอบให้พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี”
หากพรรคก้าวไกลเลือกวิธีเจรจาดึงพรรคอื่นร่วมรัฐบาลเพื่อเพิ่มเสียง ปัญหาคือจะมีพรรคใดยอมเข้าร่วมหรือไม่ เพราะพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า ไม่ร่วมกับพรรคที่จะแก้มาตรา 112 ดังนั้นวิธีดังกล่าวคงเป็นไปได้ยาก และอาจสายเกินไป
“ครั้นพรรคก้าวไกลจะถอย ร่วมเสนอให้แคนดิเดตพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีแทน และยังร่วมรัฐบาลอยู่ ผมก็ไม่แน่ใจว่า บรรดา ส.ว. จะยอมหรือไม่ เพราะ พวกเขาน่าจะไม่ปรารถนาเห็นพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล เช่นเดียวกัน ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ เพราะ พวกเขาอยาก “เสียบ” เข้าร่วมรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกลมากกว่า”
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ตนทราบจาก นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่ามีความคิดเตรียมเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อยกเลิกมาตรา 272 โดยทันที และ ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็เตรียมเข้าชื่อเสนอร่างแล้ว ซึ่งตนเห็นด้วย และตนมองว่ารัฐสภาจึงควรเร่งดำเนินการยกเลิกมาตรา 272 โดยเร็วที่สุด และเชื่อว่า ส.ส. จะเห็นด้วยเกินครึ่ง ขณะที่ ส.ว.จำนวนไม่น้อย เชื่อว่าจะร่วมปิดสวิตช์ ส.ว.
“การลงคะแนนเสนอพิธาไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ทำอะไรอื่นเลย ไม่มีทางที่จะได้คะแนนเพิ่มมากกว่าวันนี้ หากพวกเขายังไม่ยอมยกเลิกมาตรา 272 ให้อีก อย่างน้อย พรรคก้าวไกลก็ได้ทำให้ประชาชนเห็นแล้วว่า พยายามต่อสู้อย่างถึงที่สุดแล้ว พยายามปกป้องคะแนนเสียงร่วม 27 ล้านเสียง แล้วถอยออกมาประจานระบบนี้ให้สังคมไทยได้รู้จงยืดอกอย่างภูมิใจและทระนงองอาจในความเป็น “แกะดำ” ของการเมืองไทย ในวันนี้ แล้วอดทนรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เส้นแบ่ง “ใหม่หรือเก่า” และขั้วขัดแย้งในการเมืองไทย ชัดขึ้นกว่าเดิม แหลมคมกว่าเดิมเมื่อ 14 ล้านยังไม่พอในวันนี้ ต้องทำให้ได้ถึง 20 ล้าน 25 ล้านในวันพรุ่ง”
นายปิยบุตร ได้ระบุหมายเหตุด้วยว่า การแสดงความเห็นเป็นเห็นส่วนบุคคลต่อประเด็นการเมือง สาธารณะ ผมใช้เสรีภาพแสดงความเห็นในฐานะพลเมืองไทย ผมไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับพรรคก้าวไกลและไม่ได้ชี้นำ ครอบงำ สั่งการพรรคก้าวไกล ดังนั้น พวก “นักร้อง” ไม่ต้องไปร้องให้เสียเวลา