ปิยบุตร ขึ้นเวที ชู 4 คุณสมบัติ วิโรจน์ พร้อมเป็นผู้ว่าฯที่ทลายข้อจำกัดทุกอย่าง แก้ปัญหาโครงสร้างด้วย ปัญหายิบย่อยหมดไป ยันดีเบตเก่ง แถมบริหารได้

20 พ.ค. 2565 – ที่มิวเซียมสยาม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคก้าวไกล นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคก้าวไกล ทั้ง 50 เขต ร่วมปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. นี้

นายปิยบุตร กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาปราศรัยให้ฟังว่า คุณสมบัติของ นายวิโรจน์ มีอะไรและมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้กทม. ต้องมีผู้ว่าที่ชื่อ วิโรจน์

1. นายวิโรจน์ การแก้ทีละนิดไม่เพียงพอกับการแก้ปัญหากทม. เพราะเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน ถ้าไม่เข้าไปแตะที่ต้นตอของปัญหาจะไม่มีวันแก้ไขได้ เนื่องจากมีปัญหาเชิงโครงสร้างอยู่ด้วย นโยบาย 12 ข้อ นอกจากจะแก้ปัญหารายประเด็นแล้ว ต้องแก้ปัญหาโครงสร้างด้วย ให้ปัญหายิบย่อยหมดไปและไม่เวียนกลับมาอีก การชนกับปัญหาพร้อมกับการประนีประนอมในการบริหารงาน สามารถทำด้วยกันได้ เพียงแต่นายวิโรจน์ จะชนกับความอยุติธรรม ไม่มีวันประนีประนอมกับเรื่องเหล่านี้เด็ดขาด

2. นายวิโรจน์ จะเป็นผู้ว่าฯ กทม. ของคนส่วนใหญ่ ทั้งคนเสียเปรียบในทางโครงสร้าง เข้าไม่ถึงโอกาสต่าง ๆ และจะทำให้กทม.เป็นเมืองที่คนเท่าเทียมกัน เพราะการออกแบบนโยบายมาจากการตรวจสอบปัญหาของประชาชน เช่น นโยบายเรื่องสวัสดิการคนเมือง

3. นายวิโรจน์ เป็นนักบริหาร เพราะเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงองค์กรขนาดใหญ่มาแล้ว ทำให้รู้ว่าพนักงานระดับล่างต้องการอะไร และเจ้าของบริษัทต้องการอะไร ดังนั้น จึงเหมาะกับการเป็นผู้ว่าฯ กทม. ดังนั้นข้อกล่าวหาที่ว่า วิโรจน์ดีเบตเก่งอย่างเดียวบริหารไม่ได้จึงไม่จริง

4. นายวิโรจน์ จะเป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่พร้อมจะทลายข้อจำกัดทุกอย่าง ซึ่งโครงสร้างการบริหารราชแผ่นดินที่เป็นอยู่เป็นรัฐราชการรวมศูนย์ แม้จะบอกว่าอำนาจกระจายไปที่ท้องถิ่นแล้ว แต่อำนาจในมือกลับน้อยนิด มีกฎหมายห้าม งบประมาณไม่พอ ดังนั้นจึงต้องเลือกทั้ง นายวิโรจน์ และ ผู้สมัคร ส.ก.พรรคก้าวไกลทั้ง 50 เขต เพื่อแก้ไขข้อบัญญัติที่ติดขัดต่าง ๆ ที่ต้องให้ ส.ก. เข้าไปช่วยกัน