ภาคภูมิ สู้เต็มที่พ่ายเจ้าภาพ – ลั่นสุดคุ้มค่าคัมแบ็กทีมชาติในรอบ 13 ปี

Home » ภาคภูมิ สู้เต็มที่พ่ายเจ้าภาพ – ลั่นสุดคุ้มค่าคัมแบ็กทีมชาติในรอบ 13 ปี



การแข่งขันเทเบิลเทนนิสในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ไห่ ดวง ยิมเนเซียม ประเทศเวียดนาม วันที่ 20 พ.ค.65 ทำการชิงชัย 2 เหรียญทองวันสุดท้าย

ประเภทชายเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศ “บอล” ภาคภูมิ สงวนสิน มือตบมากประสบการณ์เจ้าของเหรียญทองประเภททีมชายซีเกมส์ปี 2001 ที่ประเทศมาเลเซีย วัย 39 ปี ที่กลับมาเข้าชิงชนะเลิศประเภทนี้ในซีเกมส์อีกครั้งในรอบ19 ปี จากที่ล่าสุดเจ้าตัวได้เข้าชิงซีเกมส์คือปี 2003 ซึ่งปีดังกล่าวก็เป็นการจัดแข่งขันที่ประเทศเวียดนามนี้ด้วย ลงดวลกับ เหวียน ดุ๊ค ตวน มือตบจากประเทศเจ้าภาพเวียดนาม

ออกสตาร์ตสองเกมแรกเป็นทางมือตบเจ้าภาพที่โชว์ผลงานได้ดีมาก ตีโต้ไม่มีหลุดง่าย เล่นทำ ภาคภูมิเหงื่อตกก่อนจะเป็นฝ่ายชนะไปก่อนสองเกมแรก 11-7 และ 11-9 ขึ้นนำ 2-0 เกม ในเกมที่สาม ภาคภูมิ คุมจังหวะได้ดีและคอนโทรลเกมบุกได้ ตบชนะบ้างที่ 11-8 ไล่มา 1-2 เกม ทว่าหลังจากนั้นเป็น เหวียน ดุ๊ค ตวน ที่มีสปีดความคล่องแคล่วและไหวพริบดี ลูกโต้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าลูกเด้งหนุ่มไทย และสามารถเอาชนะได้สองเกมติด 11-7 และ 13-11 ส่งผลให้จบเกมการแข่งขัน เหวียน ดุ๊ค ตวน ของเวียดนาม ชนะ “บอล” ภาคภูมิ สงวนสิน ของไทย 4-1 เกม (11-7, 11-9, 8-11, 11-7, 13-11) ลูกเด้งหนุ่มไทยได้เพียงเหรียญเงิน

สรุปเหรียญรางวัลกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ของทัพเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย สามารถกวาดไปได้ 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง โดยผลงานครั้งนี้ถือเป็นการทำลายประวัติศาสตร์ของทัพลูกเด้งไทยที่ยังไม่เคยได้เหรียญทองเกิน 3 เหรียญมาก่อนในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ โดยมากที่สุดที่ทำได้คือ 3 เหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ปี 1985 ที่กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพ

หลังจบการแข่งขัน ภาคภูมิ สงวนสิน เผยว่า การมาครั้งนี้ถือเป็นการกลับมารำลึกการรับใช้ทีมชาติอีกครั้งในรอบ 13 ปี วันนี้ทำเต็มที่และดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เสียใจอะไร เพียงแต่แอบผิดหวังนิดหน่อย เนื่องจากรอบที่ผ่านมาทำได้ดีกว่านี้ ในรอบชิงชนะเลิศความคาดหวังอาจจะมากเกินไปทำให้ตีผิดฟอร์มไปจากเดิม

“การได้กลับมารับใช้ชาติอีกครั้งมันคุ้มค่าแน่นอน ครั้งนี้เป้าหมายคือการทำให้เต็มที่ที่สุด ไม่ได้มองว่าจะต้องได้เหรียญทอง แต่อยากกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งหนึ่ง ในการแข่งขันประเภททีม เรารู้สึกเหมือนกับว่าเราได้รวมพลังกันจนสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ ซึ่งเหรียญทองประเภททีมของตัวเองที่เคยคว้าได้ก็ต้องย้อนไป 21 ปีที่แล้ว เมื่อตอนอายุ 18 ปี ตอนนี้ผลงานกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป้นไปได้ ซีเกมส์ ปีหน้าที่ กัมพูชา ก็อยากไปครับ ”

“ตอนนี้มีนักกีฬาระดับเยาวชนไปแข่งขันในเวทีต่างประเทศเยอะ ต้องขอบคุ
ณ พี่ตูนนายกสมาคม (นายณัฐวุฒิ เรืองเวส) ที่ผลักดันนักกีฬาระดับเยาวชน ทำให้ในอนาคตน่าจะมีนักกีฬาก้าวขึ้นมาแทนรุ่นพี่มากขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ