ปมหนุ่มขับรถพุ่งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดมีการ ปิดทางมรณะชั่วคราว ใช้แบบริเออร์พลาสติกกั้น เผย ที่ผ่านมาเปิดมาแล้วนานกว่า 4 ปี
จากกรณีการเสียชีวิตของนายธีรภัทร์ อายุ 27 ปี บุตรชายของเจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรการเกษตรรายใหญ่ ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ขับรถยนต์คู่ใจพุ่งตกลงแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นเหตุให้ทั้งคนทั้งรถจมหายไปกับแม่น้ำ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่คลางแคลงใจของมารดานายธีรภัทร์ ได้เกิดคำถามไปยังแขวงการทาง ที่เปิดช่องทางลงแม่น้ำ บริเวณหัวโค้งช่วงทางลอดใต้สะพานเลี่ยงเมืองเอาไว้ จนทำให้นายธีรภัทร์ต้องประสบอุบัติเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พ.ย. 2564 นายรุ่งโรจน์ สถิตย์ รอง ผอ.สำนักงานทางหลวงที่ 11 (ลพบุรี) รักษาการแทน ผอ.แขวงทางหลวงนครสวรรค์ที่ 1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัด นำป้ายเตือน และแบริเออร์แบบพลาสติกมาติดตั้งปิดช่องทางไว้เป็นการชั่วคราว บริเวณจุดที่เป็นช่องทางลงแม่น้ำ ที่นายธีรภัทร์ขับรถพุ่งตกลงในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นการชั่วคราวแล้ว
นายรุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า ในจุดสะพานกลับรถตรงนี้ เป็นมีช่องทางจราจร 2 ช่องทาง มีการตีเส้นแบ่งช่องทางอย่างชัดเจน และมีไฟฟ้าส่องสว่างครบถ้วนตามแบบก่อสร้าง ส่วนช่องที่เว้นไว้เป็นทางลงแม่น้ำเจ้าพระยา ตามแบบแปลนก่อสร้างมีการเว้นช่องทางเอาไว้ประมาณ 4 เมตรเศษๆ เพื่อเอาไว้สำหรับให้รถบรรทุกน้ำมาจอดเติมน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในการนำไปช่วยบรรเทาสาธารณภัยในช่วงหน้าแล้ง
รวมถึงยังเป็นช่องทางไว้สำหรับลงเรือของประมงพื้นบ้าน และเป็นจุดซ่อมแซมบำรุงรักษาไฟฟ้าของการไฟฟ้าด้วย ซึ่งก็เปิดไว้ตั้งแต่แรกเริ่มในช่วงที่มีการซ่อมปรับปรุงทางเลี่ยงเมืองแล้ว และไม่เคยมีอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ถ้าจะถามเรื่องไฟฟ้าส่องสว่าง เราก็ยืนยันว่าได้ตรวจสอบแล้ว ไฟส่องสว่างก็ติดหมดทุกดวง ไม่น่าจะเป็นเพราะแสงว่างน้อยได้
“สำหรับการเกิดอุบัติเหตุของนายธีรภัทร์ โดยส่วนตัวแล้ว มองว่า เขาน่าจะไม่ชินเส้นทางมากกว่า เพราะจากการทดสอบให้ทีมงานทดลองขับรถไปเส้นทางนี้ ก็ไม่ใช่เป็นเส้นทางตรงที่จะไปถึงช่องทางลงแม่น้ำ เนื่องจากมันมีโค้งอยู่หน่อยๆ
เว้นเสียแต่ถ้าหากเขาขับไปตามช่องทางจราจรทางฝั่งขวา ซึ่งเป็นเลนสวน ก็ถือว่าเป็นทางตรงเข้าช่องทางลงแม่น้ำได้ แต่ก็ไม่อยากให้มองว่า นายธีรภัทร์ได้ขับรถไปทางช่องทางฝั่งขวา เพราะความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเส้นทางเดินรถทางเดียวหรือไม่ แต่ผมว่าว่าเกิดจากความไม่คุ้นชินเส้นทาง” นายรุ่งโรจน์ ระบุ
ด้านนายปัญญา แสนสุข รอง ผอ.แขวงทางหลวงนครสวรรค์ที่ 1 (ฝ่ายปฏิบัติการ) กล่าวเสริมว่า ในช่วงที่มีการออกแบบแปลนเส้นทางตรงนี้ แต่เดิมได้ออกแบบไว้ให้มีแบริเออร์ปิดช่องทางเอาไว้ทั้งหมด แต่ก่อนจะดำเนินการสร้างทาง ได้มี อบต.ในพื้นที่มาขอให้เปิดช่องทางเอาไว้ ในการใช้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยานำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่ ซึ่งทางเราก็ได้มีการจัดทำประชาพิจารณ์จากชาวบ้านแล้ว ต่างก็เห็นดีด้วยให้เปิดช่องทางเอาไว้
จึงได้ทำช่องทางเอาไว้ให้ตามที่ต้องการ ซึ่งก็เปิดเอาไว้มานานกว่า 4 ปีแล้ว ส่วนการแก้ไขปัญหาในตอนนี้นั้น ได้มีการหารือกันแล้ว และเห็นว่า หากมีการปิดช่องทางลงแม่น้ำนี้อย่างถาวร ก็จะไม่มีช่องทางที่เอาไว้สำหรับช่วยเหลือชาวบ้านในยามหน้าแล้ง หรือเกิดอุทกภัย รวมถึงด้านประมงอื่นๆ ดังนั้น จึงจะมีการนำแท่งแบริเออร์แบบพลาสติกนำมาวางปิดกั้นเอาไว้แทนเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สะดวกต่อการขนย้าย หากมีความจำเป็นต้องใช้ทางนี้