นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานแถลงข่าวการแข่งขันวิ่งมาราธอน “บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง” ที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม โดยมี นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, พล.อ.สันต์ ศรุตานนท์ นายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ พร้อมผู้สนับสนุนร่วมแถลงข่าวอย่างคับคั่ง
สำหรับ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง” เป็นการแข่งขันวิ่งมาตรฐานโลกของประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ จัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยครั้งนี้จะชิงชัยกันในรูปแบบไนท์รัน ในค่ำวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2566 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ชิงเงินและของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันวิ่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบุรีรัมย์ มาราธอน ที่จะจัดขึ้นเป็นปีที่ 7 เราพยายามสนับสนุนให้ก้าวสู่ระดับมาตรฐานเหรียญทองของโลกหรือ Gold Label เป็นรายการแรกของประเทศไทย ให้ทัดเทียมกับรายการระดับโลกรายการอื่นๆ แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หยุดมอบเหรียญนี้มา 2 ปี แต่เชื่อมั่นว่าในการจัดครั้งนี้ จะได้รับมาตรฐานเหรียญทองอย่างแน่นอน
“ตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 ค่อนข้างคลี่คลาย ดังนั้นปีนี้จะมีนักวิ่งระดับอีลิทเข้ามาร่วมงานมากขึ้น ยิ่งถ้าถูกจัดให้เป็นเหรียญทอง จะกลายเป็นรายการหลักและมีนักวิ่งมาร่วมมากขึ้น แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ ทุกคนจะต้องช่วยเหลือกัน และต้องระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปด้วย”
นายพิพัฒน์ กล่าวปิดท้ายว่า คาดว่าการแข่งขันครั้งนี้จะมีผู้แข่งขันไม่ต่ำกว่า 20,000 คน และจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดข้างเคียง กระตุ้นเศรษฐกิจ นำรายได้เข้าสู่ประเทศ และมั่นใจว่าการแข่งขันปีนี้จะทำให้ได้เหรียญทองอย่างแน่นอน
ด้านนายธัชกร กล่าวว่า ในนามชาวบุรีรัมย์ตลอด 6 ปี ได้ฟังเสียงสะท้อนทั้งด้านดีและไม่ดี ซึ่งส่วนที่ไม่ดีก็จะนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้นักวิ่งทุคกนได้รับความสุข ความปลอดภัย และความประทับใจกลับไป ปีนี้ได้มีการเตรียมไฮไลท์เอาไว้มากมาย โดยเฉพาะจุดที่นักวิ่งชื่นชอบอย่างสันเขื่อนห้วยจระเข้มาก ที่จะตกแต่งให้สวยงามยิ่งกว่าเดิม เชื่อว่านักวิ่งทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์งานวิ่งที่ดีที่สุดอีกครั้งแน่นอน
ขณะที่นายเนวิน กล่าวว่า งานวิ่งบุรีรัมย์ มาราธอน เตรียมความพร้อมตามมาตรฐานเหรียญทองอยู่แล้ว และปีนี้จะใช้คำว่าผู้สมัครจะร่วมวิ่งสู่การเป็นระดับโกลด์ด้วยกัน แต่นอกเหนือจากเป้าหมายการเป็นโกลด์หรือแพลตตินั่ม ยังตั้งเป้าอยากให้เป็นมาราธอนที่เป็นที่สุดของโลกในหลายๆ ด้าน เช่นเป็นรายการที่สนุกที่สุด, นักวิ่งมีความสุขที่สุด, มีกองเชียร์มากที่สุด และไม่ได้ตั้งเป้าดึงดูดแค่นักวิ่ง แต่ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวแม้จะไม่มาวิ่ง แต่มาเข้าร่วมครั้งหนึ่งในชีวิต
“การวิ่งในปีนี้จะไม่เป็นเพียงไนท์รันธรรมดา แต่เราจะทำให้เป็นการวิ่งแบบ 4D สิ่งสำคัญของ 4D ก็คือกลิ่น ซึ่งจะเป็นกลิ่นอาหารขึ้นชื่อของชาวบุรีรัมย์ รวมถึงวันแข่งขันจะมีทั้งแสง, สี, เสียง, รส, สัมผัส ทุกอย่างจะเกิดขึ้นให้กับนักวิ่งทุกคนและนักท่องเที่ยวที่จะไปร่วมงานในปีนี้
นายเนวิน กล่าวปิดท้ายว่า บุรีรัมย์ มาราธอน จะไม่เป็นเพียงสวรรค์ของนักวิ่ง แต่จะเป็นสวรรค์ของทุกคน เหมือนไปร่วมงานเทศกาล ที่ผ่านมาเราจัดวิ่งเพื่อสุขภาพ แต่จะก้าวข้ามคำนี้ เป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพและแก้ไขปัญหาปากท้อง สร้างรายได้ สร้างอาชีพ สร้างสุขภาพ และความสุขให้กับทุกคน
นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้กับสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ 1 ล้านบาท และรายได้จากการจำหน่ายบิบการกุศล จำนวน 198,000 บาท แก่โรงพยาบาลบุรีรัมย์
สำหรับไฮไลท์ที่สำคัญของบุรีรัมย์มาราธอนอีกอย่างคือ เส้นทางวิ่งที่สวยงาม แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร โดยจะออกสตาร์ทปล่อยตัวจากสนามแข่งรถระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมี จุด Finish เข้าเส้นชัยที่ สนามฟุตบอลช้าง อารีนา โอกาสเดียวที่จะได้วิ่งชมบรรยากาศในสนามแข่งรถระดับโลก พร้อมชมสีสันกองเชียร์จากทุกภาคที่ขนความบันเทิงตลอดเส้นทาง สัมผัสธรรมชาติ, อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก, ผ่านจุดแลนด์มาร์คที่สวยงามต่างๆ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1, ศาลหลักเมือง, ชมบรรยากาศเมืองบุรีรัมย์ท่ามกลางแสงสีเสียงตระการตา กองเชียร์ ที่คอยให้กำลังใจตลอดสองข้างทาง
ทั้งนี้ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 พรีเซ็นเต็ดบายเครื่องดื่มตราช้าง” จัดแข่งขันในรูปแบบไนท์รัน ในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2566 เปิดรับสมัครแล้วอย่างเป็นทางการ โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 4 ระยะวิ่งได้แก่ มาราธอน ระยะทาง 42.195 ก.ม.ปล่อยตัวเวลา 18.30 น. เข้าเส้นชัยภายใน 02.00 น. (7.30 ชั่วโมง), ฮาล์ฟ มาราธอน ระยะทาง 21.1 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 20.00 น. เข้าเส้นชัยภายใน 00.30 น. (4.30 ชั่วโมง), มินิมาราธอน ระยะทาง 10 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 21.00 น. เข้าเส้นชัยภายใน 23.45 น. (2.45 ชั่วโมง) และ ฟันรัน ระยะทาง 4.554 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 21.45 น. เข้าเส้นชัยภายในเวลา 23.30 น. (1.45 ชั่วโมง) นอกจากนี้ยังมีการงานจัดงานเอ็กซ์โป เวลา 10.00-20.00 น. เอาใจนักวิ่งสายช้อปจากทั่วโลกด้วยสินค้ากีฬาและสุขภาพเอาใจนักวิ่งปอดเหล็ก ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.burirammarathon.com และ www.facebook.com/bru.marathon