ผบ.ทบ. ไม่ตอบปม “ประยุทธ์” ไปต่อ ย้ำคนจบนายร้อย เป็นสุภาพบุรุษ ชี้ป้ายหาเสียง “เอาทหารออกจากการเมือง-เลิกเกณฑ์ทหาร” ติดรอบค่ายได้ แต่อย่าขวางทาง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 มี.ค. 2566 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวกรณีกองทัพบก ออกคู่มือการปฏิบัติตัวของกำลังพลในการเลือกตั้งว่า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปตามวงรอบ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกตั้งก็ต้องเลือกตั้ง ทหารถือเป็นส่วนราชการองค์กรหนึ่ง ซึ่งมีระเบียบกฎเกณฑ์อยู่แล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามคู่มือ
และคู่มือนี้ไม่ได้เขียนขึ้นเอง ได้หารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว เมื่อกองทัพบกสั่งก็ต้องปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ผิด และขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ในบทบาทหนึ่งของกำลังพลของกองทัพบก ก็คือประชาชนคนหนึ่ง และเราพยายามผลักดันให้ไปใช้สิทธิ์ออกไปเลือกตั้งให้มากที่สุด
เมื่อถามว่า ให้กำลังพลฟรีโหวตตัดสินใจใครก็ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ใครจะไปบังคับได้ เขาอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงการเปิดพื้นที่ให้พรรคการเมืองหาเสียง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เราปฏิบัติตาม กกต. ทุกอย่าง หากขอมาก็ต้องผ่านไป ทั้งนี้ ค่ายทหารไม่เหมือนที่อื่น หรือพื้นที่สาธารณะทั่วไป เรามีพื้นที่พิเศษที่กำหนดว่า ทำได้แค่ไหนอย่างไร โดยเฉพาะหน่วยราชการด้านความมั่นคง
เมื่อถามว่า กองทัพบกอนุญาตให้ติดป้ายหาเสียงที่มีข้อความเอาทหารออกจากการเมือง ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ที่ติดรอบกองทัพบก และค่ายทหารหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ต้องไปถาม กกต. ถ้านอกค่ายทหารก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ต้องไปดูว่ามีกฎระเบียบของกทม. หรือกกต.หรือไม่ ไม่ได้เกี่ยวกับกองทัพบก หรือหน่วยทหารอยู่แล้ว เพียงแต่ทหารมองก็จะมองเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยสถานที่ ไม่ใช่ติดกันเต็มไปหมด หรือขวางประตูทางเข้า ก็เป็นไปไม่ได้
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่การเมืองทำให้ทหารเป็นจำเลยสังคม ผบ.ทบ. กล่าวว่า แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน เราห้ามไม่ได้ คนชอบหรือไม่ชอบก็มีเป็นเรื่องปกติ มีทั้งคนรัก คนเกลียด ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวกับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรมว.กลาโหม เพราะนั่นเป็นเรื่องส่วนบุคคล แล้วแต่คนว่าจะมองมุมไหน อย่างสมเด็จพระอาจารย์โต บอกเอาไว้ เหมือนมองกระจกหกด้าน แล้วแต่ว่าใครจะมองด้านไหน ซึ่งมองหลังอาจจะดูไม่ดี ไม่ชอบ มองหน้าดูดี ดูหล่อ แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ แล้วบอกว่ามองหลังดูดีกว่า
เมื่อถามว่า มองท่าที พล.อ.ประยุทธ์ ช่วงนี้อย่างไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ท่านเป็นผู้บังคับบัญชา ไปพูดไม่ได้
เมื่อถามต่อว่า ก่อนหน้านี้เคยบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความเป็นสุภาพบุรุษ ท่านควรจะไปต่อหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่สามารถไปพูดถึงผู้บังคับบัญชาได้ เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่ความเป็นสุภาพบุรุษ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีทุกคน ให้ไปดูภาพยนตร์ เรื่อง A officer and the gentleman เราดูมาตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งการเป็นนายร้อยฯ ก็ต้องเป็น gentleman และคนที่ออกมาแล้วต้องดำรงความมีวินัย เมื่อเป็น gentleman ได้ก็จะเจริญเติบโตและกลายมาเป็นผู้นำกองทัพ
เมื่อถามว่า ทำไม ผู้จบ รร.จปร. จึงได้เป็นนายกฯ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ประเทศสหรัฐฯ นายพล ไอเซนฮาวร์ ยังเป็นประธานาธิบดีได้ เขาก็จบโรงเรียนนายร้อยเวสปอยต์ หรืออย่างเช่น ประธานธิบดี บุช ก็เป็นทหารเรือ นักบินของกองทัพเรือก็มาเป็น