บิ๊กตู่ รับ หนี้ครัวเรือน สูงขึ้น แต่การจ้างงานก็เพิ่ม เร่งทุกฝ่ายเพิ่มรายได้ปชช.

Home » บิ๊กตู่ รับ หนี้ครัวเรือน สูงขึ้น แต่การจ้างงานก็เพิ่ม เร่งทุกฝ่ายเพิ่มรายได้ปชช.


บิ๊กตู่ รับ หนี้ครัวเรือน สูงขึ้น แต่การจ้างงานก็เพิ่ม เร่งทุกฝ่ายเพิ่มรายได้ปชช.

บิ๊กตู่ ยอมรับ หนี้ครัวเรือน สูงขึ้น แต่การจ้างงานกำลังเพิ่มขึ้น ย้ำ ปี 65 ประกาศเป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” เร่งทุกฝ่ายเพิ่มรายได้ประชาชน

วันที่ 25 พ.ค.2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เร่งผลักดันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการการทำงานเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนในทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับถึงการสร้างความรับรู้แก่ประชาชนเพื่อรับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่

นายธนกร กล่าวต่อว่า จากข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่กำหนดให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยเพื่อพิจารณาขับเคลื่อนแนวทางแก้ไขสถานการณ์หนี้ครัวเรือนให้มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม พบว่ากลุ่มปัญหาหนี้ครัวเรือนมี 6 กลุ่ม ได้แก่

  • 1.กลุ่มหนี้นักเรียนหรือหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
  • 2.กลุ่มหนี้จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู
  • 3.กลุ่มหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล
  • 4.กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์
  • 5.กลุ่มหนี้นอกระบบ
  • 6.กลุ่มลูกหนี้ทั่วไป

นายธนกร กล่าวอีกว่า โดยกระทรวงการคลัง รับลูกตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ได้จัดโครงการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันทางการเงินต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการสร้างช่องทางเพื่อรายได้แก่ประชาชน เช่น การให้สินเชื่อเพื่อการลงทุนกับผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ประกอบการอาชีพอิสระ ช่วยเหลือประชาชนผู้ขาดรายได้จากการตกงาน ให้เข้าโครงการส่งเสริมความรู้และรับสินเชื่อเพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้เพื่อลดภาระหนี้

การสนับสนุนทุนเพื่อพัฒนาภาคการเกษตรด้วยนวัตกรรมทันสมัย การจัดสร้างที่อยู่อาศัยโครงการบ้านเอื้ออาทรในราคาต่ำ อีกทั้งดำเนินการเพื่อแก้ไขความยากจนของประชาชนระดับรากหญ้าผ่านการสร้างความตระหนักรู้แก่ภาคครัวเรือนในการให้ความสำคัญกับการออม การกู้ยืม และการลงทุน

นายธนกร กล่าวว่า แม้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนในปัจจุบันยังมีอัตราสูง แต่ภาพรวมการจ้างงานในไตรมาส 1 ปี 2565 มีจำนวนกว่า 38.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.0% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวหลังจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทิศทางด้านการจ้างงานที่เป็นบวกนี้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จจากการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง และทุกฝ่ายย้ำชัดถึงความพร้อมในการเปิดประเทศเพื่อขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวหน้า

นายธนกร กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการติดตามแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนในทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และเป็นรูปธรรมที่สุด เพื่อแบ่งเบาหรือเพิ่มขีดความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชน โดยนายกฯ ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างนี้ไปด้วยกัน

นายธนกร กล่าวด้วยว่า เชื่อมั่นว่าหากร่วมมือกันจะสามารถบรรลุเป้าหมายการลดปัญหาหนี้สินครัวเรือนได้ อีกทั้งกำชับทุกฝ่ายดูแลเรื่องการแก้ปัญหาการว่างงาน เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจไทยให้มั่นคง สังคมภาพรวมมีความสุข และประชาชนทุกกลุ่มมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ