บิ๊กตู่เผย เศรษฐกิจ ฟื้นฟูอย่างช้า ๆ ไม่ชะลอ ย้ำทุกประเทศเดือดร้อนหมด

Home » บิ๊กตู่เผย เศรษฐกิจ ฟื้นฟูอย่างช้า ๆ ไม่ชะลอ ย้ำทุกประเทศเดือดร้อนหมด



บิ๊กตู่เผย เศรษฐกิจ ฟื้นฟูอย่างช้า ๆ ไม่ได้ชะลอ แจงทุกประเทศเดือดร้อนหมด รัฐบาลพยายามดูเต็มที่ ย้ำเงินเฟ้อไทยไม่สูงสุดในโลก เราอยู่ในกลุ่มต่ำสุด

วันที่ 23 พ.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยว่า เศรษฐกิจ ช่วง 3-4 เดือนของปีนี้ โต 2.2% การใช้จ่ายของประชาชนเพิ่ม 3.9 % ถ้าจะมองเศรษฐกิจของเราตอนนี้ ถือว่าอยู่ในช่วงฟื้นฟูอย่างช้า ๆ ไม่ถือว่าชะลอ ถ้าเทียบตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 มา เรารักษาสมดุลตรงนี้ไว้ เพื่อให้เศรษฐกิจโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ทุกประเทศก็เดือดร้อนกันหมด แต่รัฐบาลก็ดูแลอย่างเต็มที่

ส่วนหนึ่งมาจากโครงการของรัฐบาลที่ส่งงบประมาณเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นในการดูแลมาตรการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และอื่นๆ การส่งออกเติบโตได้ 12 เปอร์เซ็นต์ นักท่องเที่ยวปัจจุบันที่เข้าประเทศหลังจากยกเลิกเทสแอนด์โกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 พ.ค. จำนวน 1.02 ล้านคน ขณะเดียวกันทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประเมินไว้แล้วว่าปีหนึ่งน่าจะได้ถึง 7 ล้านคนถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือมีสถานการณ์โควิดอะไรมาเพิ่มเติม

นอกจากนี้การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 2.9 เปอร์เซ็นต์ การลงทุนภาครัฐอยู่ในช่วงไตรมาส 2 ของการเบิกจ่ายงบประมาณ เพราะเป็นช่วงเริ่มการก่อสร้าง หลังจากลงนามในสัญญาโครงการไตรมาส 1 ส่วนเรื่องเงินเฟ้อหลายคนเป็นห่วง รัฐบาลเองก็เป็นห่วงใน 2 ปัจจัยคือราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนค่าขนส่ง รัฐบาลก็ช่วยตรงนั้นไปแล้ว ราคาหมวดอาหารใช้มาตรการลดภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากรต่างๆเพื่อช่วยเหลือต้นทุนการขายปลีก โดยให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาดำเนินการตามพันธหน้าที่

ส่วนกำลังซื้อภาคประชาชนค่าเงินบาทอ่อนตัว ฉะนั้นเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกของเรา โดยเฉพาะสินค้าด้านการเกษตรปีนี้ราคาดี ไม่ว่าจะเป็นยาง ปาล์ม ข้าวโพด ข้าวยังทรงๆ อยู่ เพราะมีซับพลายล้นตลาด จากข้าวที่ราคาต่ำกว่าที่อื่น ส่วนกำลังซื้อภาคชนบทก็กำลังดี ดูจากยอดขายและอื่นๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน

ตอนนี้ผู้ทำงานจะมีรายได้เพิ่มขึ้น จากเคยโดนลดเงินเดือนค่าจ้างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราพยายามจะรักษาระดับเงินเฟ้อให้ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเงินเฟ้อของเรามีคนไปพูดบิดเบือนว่าเรามากกว่าเขา เงินเฟ้อเราไม่ได้สูงที่สุดในโลก แต่เราอยู่ในกลุ่มที่ต่ำสุด และเราจะต้องกำกับดูแลราคาสินค้าในท้องตลาดให้ได้มากที่สุด

เรื่องดอกเบี้ยนโยบายต่างๆทางธนาคารกำลังพิจารณาเพื่อพิจารณาตามความเหมาะสม 4 เดือนแรกเรายังคงมีเงินลงทุนโดยตรงเดือนละประมาณ 4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2 และ 3 เราจำเป็นต้องเร่งผ่อนคลายมาตรการโควิดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาให้มาก รวมถึงนักท่องเที่ยวในประเทศเราด้วย ซึ่งยังพอมีเวลาตั้งแต่เวลานี้จนถึงช่วงไฮซีซั่นปลายปี โดยหลายเรื่องเราได้ดำเนินการไป

หากดูตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยกว่าล้านคน ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวไตรมาสแรกในปี 65 น่าจะเพิ่ม 2,000 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเดิมไม่มี ตัวเลขเป็นศูนย์ ฉะนั้นตัวนี้ก็ดูสูงดี แต่ก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ รายได้เพิ่มขึ้นถึง 1.4 พันเปอร์เซ็นต์ มองตัวเลขดูดีมากๆ ถ้าเปรียบกับที่มันลดลงไป ก็ขอให้เข้าใจร่วมกัน วันนี้สถานการณ์โควิดยังมีแนวโน้มคงที่ จึงต้องนำมาพิจารณา

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ