บทบรรณาธิการ – ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

Home » บทบรรณาธิการ – ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ


บทบรรณาธิการ – ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

มติคณะกรรมการค่าจ้างปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ประจำปี 2565 โดยแบ่งเป็น 9 ช่วงอัตรา และคาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเดือนนี้ เพื่อให้ทันประกาศใช้และมีผลในวันที่ 1 ตุลาคม

จังหวัดชลบุรี, ระยอง, ภูเก็ต ได้ปรับค่าแรงมากที่สุด 354 บาทต่อวัน ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ยะลา, นราธิวาส, ปัตตานี และอีก 2 จังหวัด คือ น่าน และอุดรธานี ค่าแรงถูกสุด 328 บาทต่อวัน

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ กับอีก 2 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม และสมุทรสาคร ได้ปรับค่าแรงเป็นวันละ 353 บาท

กระทรวงแรงงาน ระบุการปรับค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้มีอัตราค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 337 บาท คิดเป็น 5.02 เปอร์เซ็นต์ กำหนดบนพื้นฐานให้นายจ้างประกอบธุรกิจอยู่ได้ ลูกจ้างดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข และเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ

อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนพรรคพลังประชารัฐหาเสียงและสัญญากับประชาชนไว้ว่าจะปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 425 บาทในทั่วประเทศ

แต่ตลอดเกือบ 4 ปีที่เป็นรัฐบาล กลับไม่สามารถทำได้ตามที่สัญญาได้ แม้พื้นที่ที่ปรับอัตราค่าจ้างสูงวันละ 354 บาทก็ยังห่างไกลจากที่ประกาศไว้ถึง 71 บาท

นอกจากนี้ ยังหาเสียงเรื่องนโยบายเงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น 20,000 บาท อาชีวะเริ่มต้น 18,000 บาท ปลดหนี้นอกระบบผู้ใช้แรงงาน 10 ล้านราย ที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท รวมถึงนโยบายมารดาประชารัฐก็ยังทำไม่ได้

การหาเสียงด้วยนโยบายที่สวยหรู สร้างแรงจูงใจเพื่อคะแนนนิยม แต่สุดท้ายกลับทำไม่สำเร็จตามที่สัญญาไว้ สมควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง

ภาพรวมของรัฐบาลนี้ ใช้เงินเกี่ยวกับนโยบายประชานิยมมหาศาล ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การใช้เงินกู้ในโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และโครงการอื่นๆ ลักษณะเดียวกัน แต่กลับ ไม่ส่งผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจมากนัก

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะทุกอย่างขึ้นราคาแทบทั้งสิ้น ทั้งพืชผัก เนื้อหมู ไก่ ไข่ ปลา น้ำมันปาล์ม ล่าสุดก็บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ในส่วนของพลังงานนั้น เห็นชัดว่าไม่สามารถบริหารจัดการได้ ทั้งแก๊สหุงต้มและราคาน้ำมัน โดยน้ำมันดีเซลจากเดิมที่เคยตรึงอยู่ที่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ขณะนี้ต้องตรึงไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตรแล้ว

ในเดือนกันยายนถึงธันวาคมนี้ ค่าไฟฟ้าผันแปรหรือเอฟทีจะขยับเพิ่มเป็นหน่วยละ 4.72 บาท ซึ่งจะสร้างภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้ แม้จะช่วยได้บ้างแต่ก็น้อยมาก เมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงลิ่ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ