งานพังก่อนได้แต่ง ว่าที่เจ้าบ่าวห้ามแฟนใส่ชุดเจ้าสาวสีขาว เพราะเธอสูญเสียความบริสุทธิ์ตั้งแต่อายุ 18 ปี ไม่เข้ากับสีขาวที่เป็นสัญลักษณ์ของ “ความบริสุทธิ์”
ตามรายงานของ Daily Mail และ Daily Mirror ว่าที่เจ้าสาวโพสต์เล่าบนฟอรัม Reddit ว่าเธอเสียพรหมจรรย์ตอนอายุ 18 ปี ก่อนที่จะเลิกกับแฟนเก่า กระทั่งมาคบหากับแฟนคนปัจจุบันจนเธออายุ 21 ปีได้มีการหมั้นหมายกันแล้ว และงานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นหลังจากงานหมั้น 10 เดือน
แต่เมื่อวันแต่งใกล้เข้ามา จู่ๆ แฟนหนุ่มของเธอก็ขอในสิ่งที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน โดยขอเชิงสั่งว่าห้ามสวมชุดเจ้าสาวที่เป็นสีขาวในวันแต่งงาน แต่เพราะเป็นคำขอที่ฟังอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เธอเลยไม่คิดจะฟังตามคำขอของเจ้าบ่าว และตัดสินในเลือกชุดเจ้าสาวกลับบ้าน
“พูดตามตรง ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม เป็นอะไรมากไหม เจ้าสาวเกือบทุกคนก็สวมชุดสีขาวในวันแต่งงาน”
อย่างไรก็ดี เมื่อแฟนหนุ่มรู้ว่าเธอเลือกชุดเจ้าสาวสีขาว เขาก็โกรธมากจนทะเลาะกันครั้งใหญ่ สุดท้ายเขาก็ชี้ให้เห็นว่าเธอไม่เข้ากับสีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “ความบริสุทธิ์” อีกต่อไป นอกจากนี้ ว่าที่เจ้าบ่าวยังเปิดเผยว่าเขาบอกเพื่อนร่วมงานและแม่ของเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เธอ “ไม่บริสุทธิ์” ด้วย
เมื่อได้รับรู้ทัศนคติของแฟนหนุ่ม เธอก็รู้สึกเซ็งทันที อดคิดไม่ได้ว่าเขาทั้งแปลกและน่ารังเกียจ ทั้งนี้เธอมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา แต่เป็นเพียงเพราะเขายังคงหมกมุ่นอยู่กับเรื่องสาวพรหมจรรย์ ทำให้มีความคิดที่น่าขยะแขยง และในที่สุดความสัมพันธ์ของคู่หมั้นก็ขาดสะบั้นลง โดยเธอเป็นฝ่ายเดินหน้าถอนหมั้นเอง