“นายกฯ” ห่วง ประชาชน 11 จังหวัด ได้รับผลกระทบจาก “พายุมู่หลาน” สั่ง “มท.1-จังหวัด-ทหาร-ท้องถิ่น” ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ฟื้นฟูหลังน้ำลด
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ติดตามผลกระทบจากพายุมู่หลาน ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่รวม 11 จังหวัด 30 อำเภอ 77 ตำบล 410 หมู่บ้าน โดยพื้นที่น้ำท่วมใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา น่าน และพิษณุโลก รวม 25 อำเภอ 70 ตำบล 391 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,885 ครัวเรือน ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
โดยนายกฯ สั่งการกระทรวงมหาดไทย ประสานจังหวัดที่ประสบภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หน่วยทหาร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ยากต่อการสัญจรเข้าถึง และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ให้เร่งช่วยเหลือออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่อาศัยในพื้นที่บริเวณริมน้ำโขง จ.เลย หนองคาย นครพนม และมุกดาหาร อุบลราชธานี ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 14-18 ส.ค. นี้
นายธนกร กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมขังใน จ.เชียงราย และน่าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สั่งการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และกำชับปภ. ประสานจังหวัด และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือนภัย การเผชิญเหตุ การอพยพ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบภาวะฝนตกหนักอย่างเต็มกำลัง เน้นดูแลด้านการดำรงชีพและความปลอดภัยของประชาชน
“นายกฯ ขอให้ระมัดระวังเรื่องกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วมขัง หวั่นจะเกิดอันตรายต่อพี่น้องประชาชน และกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ไม่ให้มีการตกค้าง และฝากความห่วงใยและกำลังใจมาถึงพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยทุกคน และกำชับให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐ เร่งสำรวจประเมินความเสียหาย ในพื้นที่ที่หลังสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ อย่างเร่งด่วนต่อไป” นายธนกร กล่าว