“นายกฯ” ปลื้ม จีดีพีไทย โต 4.5 เปอร์เซ็นต์ เร่ง เบิกจ่ายงบฯ ลงทุน-ส่งออก รับความท้าทายเศรษฐกิจโลก คู่แก้หนี้ครัวเรือน-เอสเอ็มอี
22 พ.ย. 65 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสณรกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี 2565 เติบโตได้ดีร้อยละ 4.5 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1-2 ร้อยละ 2.3 และ 2.5 ตามลำดับ
ส่วนปัจจัยรอบด้าน ทั้งภาคการท่องเที่ยว การลงทุน การบริโภคเอกชน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวต่อเนื่องทำให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาดว่าตลอดปี 2565 เศรษฐกิจจะเติบโตได้ร้อยละ 3.2 จากร้อยละ 1.5 ในปี 2564
โดย นายกฯ ยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อรักษาความต่อเนื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ให้ประชาชนทุกกลุ่มได้รับผลประโยชน์จากการขยายตัวอย่างทั่วถึง และแก้ไขในประเด็นที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรค เช่นการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐที่ สศช. ได้มีข้อชี้แนะว่า ยังมีความล่าช้าและต้องเร่งรัดเพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกฯรัฐมนตรี ยังให้ความสำคัญกับนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนและเอสเอ็มอี ด้วยมาตรการต่างๆที่หน่วยงานเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ร่วมกับสถาบันการเงินทั้งรัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อยู่ขณะนี้ ซึ่งเน้นย้ำว่ามาตรการนี้ยังจำเป็นโดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในขาขึ้น
ในส่วนของภาคที่เกี่ยวข้องกับต่างๆประเทศ ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายของเศรษฐกิจโลก จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน ต้นทุนค่าครองชีพ และการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ แต่รัฐบาลจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการนโยบายด้านการส่งออก การสนับสนุนผู้ประกอบการในการแสวงหาตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อรักษาการเติบโตเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในปีนี้ พร้อมกับส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอยู่ในขณะนี้ให้เป็นกำลังสำคัญผลักดันการเติบโตในระยะต่อไป