สืบเนื่องช่วงบ่ายของวานนี้ (15 ส.ค. 66) ที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาทำการแถลงข่าว แฉเพื่อชาติ EP.2 โดยมีชื่อตอนว่า “ปั่น บวม ตัดตอน” ซึ่งนายชูวิทย์ได้ออกมาพูดถึงประเด็นที่ดินอีกหนึ่งโฉนดในบริเวณคอนโดมิเนียม “คุณ บาย ยู” ว่า บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น (ผู้ที่ต้องการซื้อที่ดินผืนนั้น) ตอนที่ทำการซื้อ ได้ไปกู้เงินกับ บริษัท อาณาวรรธน์ เป็นจำนวน 565 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือหุ้นก็คือ บริษัท แสนสิริ ที่ถือหุ้นอยู่ 99.98% ซึ่งมีนาย เศรษฐา เป็นกรรมการอยู่ในตอนนั้น เมื่อมีทาง อาณาวรรธน์ บริษัทลูก มีเงินให้กู้ไม่พอ ก็ต้องไปเอาเงินจากบริษัทแม่ นั่นก็คือ แสนสิริ ไปแทน

แต่แล้วก็พบความผิดปกติ เนื่องจาก บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น กู้เงินจาก อาณาวรรธน์ โดยวงเงินกู้ 1 พันล้าน ซื้อที่ดินใจกลางทองหล่อ แต่ไม่พบข้อมูลการเสียภาษี ส่วนเงินทอน จำนวน 465 ล้าน หายไปไหน

• ชูวิทย์ แฉเพื่อชาติ Ep.2 “ปั่น บวม ตัดตอน” สะเทือนตลาดหลักทรัพย์

• แฉเพื่อชาติ ‘ชูวิทย์’ กล้าท้าปูเสื่อรอได้เลย อังคารหน้าหลักฐานจัดเต็ม

• ชูวิทย์ สปอย แฉ! ‘เพื่อไทย’ ตอนต่อไป รับรองมันส์ถึงใจ! ขายอดุมการณ์

เศรษฐา ซัดกลับ ชูวิทย์

ซึ่งล่าสุด เช้าวันนี้ (16 ส.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หรืออดีตกรรมการบริหารของ แสนสิริ ก็ได้ออกมาตอบกลับ นายชูวิทย์ ถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุข้อความผ้่นเฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน – Srettha Thavisin ว่า

ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินแปลง สุขุมวิท 55 ที่ปัจจุบันคือโครงการ คุณ บาย ยู และทางบริษัทแสนสิริได้ออกแถลงการณ์ข้อเท็จจริงแล้วนั้น

ผม นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตเคยบริหารแสนสิริมากว่า 30 ปี บริษัทฯ ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง โดยที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจนเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศ เติบโตมาจนมีทรัพย์สินรวมเกือบ 130,000 ล้านบาท และมีกำไรมากกว่า 4,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับ เชื่อถือ จากทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น และสังคมทั่วไป น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ระดับหนึ่งว่าบริษัทแสนสิริได้ถูกบริหารอย่างมีธรรมาภิบาล

การตรวจสอบจากทุกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และพร้อมให้ตรวจสอบ แต่การตรวจสอบจะต้องสร้างสรรค์ และทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ มีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และไม่บิดเบือน หรือนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหารบริษัทฯ ที่ดินแปลงสารสินซื้อมาตามราคาตลาดที่เหมาะสม ส่วนที่ดินแปลงทองหล่อซื้อมาในราคา ตารางวาละ 1,100,000 บาท ซึ่งเป็นราคาตลาดตามปกติในขณะนั้น

การกระทำใดๆ ที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ฝ่ายกฎหมายจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน การที่ฝ่ายกฎหมายของบ้านเมืองเข้ามาตรวจสอบ เป็นเรื่องที่ถูกต้องและพึงกระทำ แต่การที่บุคคลหนึ่งปลุกปั่น ตั้งสมมติฐานขึ้นมาเอง โดยมีเป้าหมายบางประการ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY