เมื่อวันที่ 6 พ.ค. รอยเตอร์รายงานว่า พสกนิกรจำนวนมากจากทั่วสหราชอาณาจักรและจากทั่วโลกเดินทางมารวมตัวกันที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อรอชมขบวนเสด็จของ สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 พร้อม สมเด็จพระราชินีคามิลลา จากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเป็นบริเวณมณฑลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ถือเป็นงานพระราชพิธีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 70 ปี ตามโบราณราชประเพณีการเสด็จขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์อังกฤษที่สืบทอดกันมานานกว่าพันปี
พระราชพิธีดังกล่าวมีขึ้นหลังสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ที่เสด็จสวรรคตด้วยพระชนมายุ 96 พรรษา เมื่อเดือนก.ย. 2565 โดยสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 จะถือเป็นกษัตริย์อังกฤษที่มีพระชนมายุมากที่สุดขณะขึ้นครองราชย์ ท่ามกลางสักขีพยานเป็นพระราชวงศ์จากทั่วโลก พระราชอาคันตุกะ อาทิ ประมุขจากนานาชาติกว่า 100 ประเทศ ในจำนวนนี้ มีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกาด้วย
พร้อมกันนี้ สมเด็จพระราชินีคามิลลา พระชนมายุ 75 พรรษา จะได้รับการแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระราชินีอย่างเป็นทางการด้วย โดยพระราชพิธีดังกล่าวนั้นใช้งบประมาณถึง 4.2 พันล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่สั่นคลอนของอังกฤษจากราคาพลังงานและค่าครองชีพพุ่งสูง
อย่างไรก็ดี พระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่มีขึ้นครั้งนี้ถือว่าผ่านการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับยุคสมัยหลายประการและมีขนาดลดลงเมื่อเทียบกับราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เมื่อปี 2496 แต่ยังคงความยิ่งใหญ่อลังการณ์เอาไว้ เช่น การนำเครื่องราชกกุธภัณฑ์ล้ำค่ามาใช้ตามโบราณราชประเพณี อาทิ ลูกโลกประดับกางเขนและพระคฑาที่ประดับเพชรคัลลิเนนที่ 1 ตัดมาจากโคตรเพชรใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงขวดน้ำมันและฉลองพระหัตถ์ช้อนทองคำ ตลอดจนพระมหามงกุฏเซนต์เอ็ดเวิร์ด และพระมหามงกุฎควีนแมรีด้วย
บรรยากาศรอรับเสด็จเต็มไปด้วยมวลชนหลายหมื่นคนที่มาจับจองที่นั่งกันตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเส้นทางของขบวนเสด็จ โดยทั้งสองพระองค์จะประทับในราชรถพัชราภิเษกที่เคลื่อนออกจากพระราชวังบักกิงแฮมไปตามถนนเดอะมอลล์ สู่จัตุรัสทราฟัลการ์ ก่อนจะเลี้ยวเข้าถนนไวต์ฮอลล์และถนนรัฐสภาตามลำดับ จากนั้นจะเข้าสู่จัตุรัสรัฐสภาและอาคาร Broad Sanctuary เพื่อไปยังประตูใหญ่ทิศตะวันตกของมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ก่อนเสด็จเข้าสู่มณฑลพิธีราชาภิเษกในมหาวิหารดังกล่าว
ทั้งนี้ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเมื่อเสร็จพิธีที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์จะมีการยิงสลุตทั่วสหราชอาณาจักรแล้วทั้งสองพระองค์เสด็จกลับพระราชวังบักกิงแฮมโดยประทับในราชรถทองคำพร้อมกองทหารม้าราชองครักษ์ ต่อมาจะเสด็จออกสีหบัญชรพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์เพื่อทอดพระเนตรการบินเทิดพระเกียรติจากทุกเหลาทัพเหนือวังบักกิงแฮมและปิดท้ายพิธีเฉลิมฉลองด้วยการแสดงฝูงบินผาดโผน เรด แอร์โรว์ ของกองทัพอากาศ